“ยาเลื่อนประจำเดือน” ใช้ยังไงให้ไม่เฟล!!

0

เพราะปัญหาวันนั้นของเดือนยังเป็นเรื่องชวนหงุดหงิดอันดับต้นๆ ของสาวๆ หลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้องก่อนหรือขณะมีประจำเดือน อารมณ์แปรปรวน ไปจนถึงความไม่สะดวกหลายๆ อย่างที่เกิดขณะมีประจำเดือน โดยเฉพาะถ้าต้องทำกิจกรรมอย่างว่ายน้ำ เล่นกีฬา หรือเดินทางไกล เชื่อว่าสาวๆ คงไม่อยากมัวพะวงกังวลใจเพราะประจำเดือนเป็นแน่

“ยาเลื่อนประจำเดือน” จึงกลายมาเป็นตัวเลือกของสาวๆ โดยยาเลื่อนประจำเดือนที่นิยมใช้ทั่วไปเป็นฮอร์โมนโปรเจสโตเจน หรือฮอร์โมนโปรเจสโตโรน เมื่อผู้หญิงกินยาประเภทนี้แล้ว จะช่วยยืดเวลาให้รอบเดือนช้าออกไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์ยาเลื่อนประจำเดือนที่ใช้กันมากในปัจจุบัน เป็นยาเม็ดที่มีตัวยาสำคัญ คือ นอร์เอทีสเตอโรน (Norethisterone) ในขนาด 5 มิลลิกรัม ซึ่งชื่อการค้าที่คุ้นเคย คือ ปรีโมลุทเอ็น (Primolut® N)

สำหรับวิธีใช้ยาเลื่อนประจำเดือนนั้นต้องกินยาล่วงหน้าก่อนจะมีประจำเดือนอย่างน้อย 4-5 วัน หรือ 1 สัปดาห์ เพราะถ้ากินในช่วงวันใกล้มีประจำเดือน อาจจะไม่ได้ผลในการเลื่อนรอบเดือนออกไป

premenstrual-syndromes

ควรหลีกเลี่ยงยาประเภทลดกรดในกระเพาะอาหาร เพราะจะทำให้การดูดซึมยาลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเลื่อนประจำเดือนต่ำส่วนวิธีใช้ให้กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง (เช้าและเย็น) หรือวันละ 3 ครั้ง (เช้า กลางวัน และเย็น) ติดต่อกันในขนาดที่กำหนด แต่ไม่ควรเกิน 10-14 วัน เพราะอาจทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย และรอบเดือนมาผิดปกติได้ หลังหยุดยาแล้วประจำเดือนจะไม่มาทันที จะทิ้งช่วงเวลาไปประมาณ 2-3 วันจึงมาตามปกติ

ข้อควรระวังที่ควรรู้คือ ยาเลื่อนประจำเดือนไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน โดยห้ามใช้ยานี้ในคน 5 กลุ่ม ได้แก่ หญิงกำลังตั้งครรภ์, หญิงที่กำลังให้นมลูกด้วยน้ำนมตัวเอง, หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือมีประวัติการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน, หญิงที่เคยเป็นหรือกำลังเป็นโรคตับขั้นรุนแรง,หญิงที่เคยเป็นหรือกำลังเป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งที่อวัยวะเพศ ชนิดที่ไวต่อฮอร์โมน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *