เคยรู้มั้ยว่าเวลาที่เราเครียด ไม่วาจะมากหรือน้อย ร่างกายจะคอยย้ำเตือนเราอยู่เสมอ แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าฮอร์โมนความเครียดตัวร้ายนี้จะไปออกฤทธิ์ตรงไหนบ้าง มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่ร่างกายกำลังส่งสัญญาณ SOS มาบอกเรา เพื่อรีเซ็ทให้ชัวร์ว่าระดับความเครียดคุณสูงขนาดไหน กำลังเข้าข่ายอาการเหล่านี้อยู่หรือเปล่า เพื่อจะได้หาทางผ่อนคลายตัวเอง ก่อนความเครียดสะสมจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ร้ายแรงจนคุณเองก็คาดไม่ถึง
ก่อนจะไปเช็กลิสต์ตัวเอง มาดูกันก่อนว่าความเครียดส่งผลร้ายอะไรต่อเราบ้าง
เริ่มจากปอดขยายตัวเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างออกซิเจนเข้าสู่กล้ามเนื้อ ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยในชั้นใต้ผิวหนังหดตัวจนเกิดอาการขนลุก ต่อมธัยรอยด์จะหลั่งฮอร์โมนเร่งการเผาผลาญมากขึ้นเพื่อเพิ่มพลังงาน ซึ่งการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องนี้นำไปสู่ปัญหาการนอนไม่หลับและอยากอาหารเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้หัวใจเต้นแรงผิดปกติ หายใจถี่ กล้ามเนื้อมีอาการเกร็ง ปากแห้ง และยิ่งไปกว่านั้น การทำงานของกระเพาะอาหารเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดอาการปั่นป่วนในช่องท้อง และรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อเราสะสมความเครียดไว้มาก ๆ โรคที่หลายคนกลัวนักกลัวหนาอย่างมะเร็งก็อาจมาเยี่ยมเยือนเราได้ในอนาคตอันใกล้นี้
STEP 1- คลายเครียดได้ง่ายนิดเดียว เริ่มต้นแบบเบสิคด้วย…
- จิบชาเขียว ชาเขียวเป็นแหล่งที่มาของ L-Theanine ที่ช่วยบรรเทาความหงุดหงิดได้
- หลับตาลง เอาแค่พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็พอ
- เคี้ยวหมากฝรั่ง ช่วยลดความวิตกกังวลและลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนแห่งความเครียดได้
- กินส้ม มีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยทำให้ความเครียดลดลงได้ แถมไม่ทำให้ง่วงอีกต่างหาก
- ทาครีมหอมๆ ที่มือ แล้วนวดเริ่มจากกล้ามเนื้อใต้นิ้วหัวมือ จากนั้น ค่อยขยับไปยังไหล่และคอ
STEP 2 – แต่ถ้าทำตามข้อข้างบนแล้วยังไม่หาย ก็ลองวิธีนี้อีกสเต็ป!
- หายใจเข้าลึก ๆ ให้กระบังลมขยายออกท้องป่อง จากนั้น ค่อย ๆ หายใจออกช้า ๆ ไล่ลมออกจนท้องแฟบ เพื่อความชัวร์ ลองเอามือแตะท้องขณะทำด้วยก็ได้
- ฟังเพลง แนะนำเพลงจังหวะช้า ๆ เบา ๆ ที่ช่วยอารมณ์ของเราผ่อนคลาย ใจสงบ อย่างแนว World Music ก็ได้
- เข้าเว็บที่ดูทีไรก็แฮปปี้ จุ๊ ๆ แต่อย่าดูมากนะ เอาแค่เป็นครั้งเป็นคราว
- แอบแวบไปเล่นเกม เครียดเมื่อไหร่เข้าห้องน้ำปิดเสียง แล้วเล่นเกมในมือถือเลย ขอเวลาแค่ 5 นาทีก็รู้สึกดีขึ้น
- ใช้กลิ่นหอมบำบัด ถ้าอยู่ที่บ้าน ให้ตั้งเตาและหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ขอบได้เลย แต่สำหรับที่ทำงาน เอาแค่เพียงธูปหอมตั้งไว้ก็พอ
STEP 3 – ไม่ไหวจริงอะไรจริง ทำหมดทุกข้อข้างบนก็ยังไม่หายอีก มีวิธีไหนบ้าง?
ซีเรียสมากแล้วนะ ถ้ามีอาการครบทุกข้อตามที่กล่าวมา ขอแนะนำให้ละจากหน้าจอมาฟื้นฟูจิตใจและอารมณ์ของตัวเองด่วนจี๋ โดยอาจเลือกไปพักผ่อนที่สปา โปรแกรมนวดแบบผ่อนคลายกล้ามเนื้อก็ดีนะ ช่วยให้เลือดลมสูบฉีดส่วนนวดน้ำมันนอกจากกลิ่นช่วยให้ผ่อนคลายแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณดีขึ้นด้วย หรือการนอนหลับสักงีบ บนหมอนนุ่ม ๆ 10-15 นาที จะช่วยคลายความตึงเครียดระหว่างวัน
อีกทางหนึ่งที่มักทำกันคือ พูดระบายกับเพื่อนสนิท หรือเพื่อนที่ทำงานก็ได้ เพียงแต่เลือกคนที่เราจะเมาท์ด้วยสักนิดว่าไม่ได้คิดร้ายอะไรกับเรา อีกทางคือการออกกำลังกายจะช่วยระบายความอึดอัดใจ ความโกรธ และความไม่พอใจต่าง ๆ ได้
ลองเลือกทำในสิ่งที่คุณชอบที่สุดจะวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะก็ได้ จะให้เก๋กว่านั้นชวนเพื่อนที่ทำงานตั้งทีมตีแบดมินตันหลังเลิกงานเสียเลย ท้ายที่สุด ยื่นลาพักร้อน ใช้โอกาสนี้รีบูตส์ชีวิตตัวเองเลย การได้ไปมองวิวทิวทัศน์อื่น ๆ ที่แปลกไปจากเดิมบ้าง หรือไปเจอผู้คนใหม่ ๆ เหล่านี้ ช่วยสลายความเครียดได้ชะงัดนัก
สมมตินะ… ถ้าเราละเลยความเครียดมันจะเกิดอะไรขึ้น?
เมินสัญญาณเตือนแล้วแย่แน่ หากเราเมิน ไม่สนใจจัดการความเครียดของตัวเองระวังจะร้ายแรงจนกลายเป็นโรคได้ อย่างเช่น
- ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ สามารถเป็นได้เมื่อเครียดจนนอนไม่หลับ
- กระเพาะอาหารเป็นแผล เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารหลั่งออกมามาเกินไป เกี่ยวเนื่องมาจากความเครียด
- โรคความดันโลหิตสูง เมื่อไหร่เราเครียด ลองวัดความดันดูจะเห็นเลยว่ากราฟพุ่งสูงปรี๊ด และพอหายเรียดปุ๊ปกราฟก็ตก
- โรคหัวใจ ใครเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เมื่อไรที่เกิดความเครียดขึ้นมามักมีอาการหอบเหนื่อย แน่นหน้าอก ใจสั่น หน้ามืด และเป็นลม เมื่อเครียดมาก ๆ เข้าอาจเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายได้
- โรคมะเร็ง ความเครียดส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน โดยไปลดความสามารถในการกำจัดสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง