นอกจากสร้างความตระหนกให้แก่ประชาชนชาวพม่าแล้ว การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในพม่า ยังสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนชาวไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน งานนี้อย่าเพิ่งหวาดระแวงคิดไปไกลนะคะ เพราะอธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วค่ะว่าบ้านเรามีวัคซีนป้องกัน
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า…
จากที่มีรายงานข่าวว่า พม่ามีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่นั้น พบว่าโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบบ่อยในประเทศต่างๆ ในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอยู่แล้ว และไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับในวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในพม่านี้ คือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (H1N1) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ไข้หวัดใหญ่ 2009” เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ สามารถแพร่ไปยังผู้อื่นโดยการ ไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ผู้ป่วยอาจมีอาการน้อยมากจึงถึงรุนแรงมากๆ โดยอาจส่งผลให้เกิดอาการปอดบวม หัวใจวาย และเสียชีวิตได้
สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 กรกฎาคม 2560 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 53,009 ราย เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งเป็นการเกิดโรคตามฤดูกาลและในปีนี้พบผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตน้อยกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ อายุ 15-24 ปี อายุ 10-14 ปี และอายุ 25-34 ปี
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์
สามารถทำได้โดยใช้มาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ได้แก่…
- ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย
- ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได
- เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ทั้งนี้ หากมีอาการไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีไข้สูง ต้องรีบพบแพทย์โดยเร็ว อย่านิ่งนอนใจเพราะโรงอาจรุนแรงจนรักษายากค่ะ