กลาก (T.corporis, T.cruris)คือ โรคเชื้อราที่ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากเชื้อรากลุ่ม เดอมาโตไฟต์ คำว่า กลาก เป็นคำรวมๆ เพราะว่าสามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งในร่างกาย
กลากจะมีลักษณะเป็นผื่นสีแดง มีขอบเขตชัดเจน มีรูปร่างเป็นวงกลมหรือวงแหวน ถ้าลุกลามขยายออกมากขึ้นจะยิ่งเห็นผื่นรูปวงแหวนมีขอบเขตชัดเจนยิ่งขึ้น อาจจะพบขุย สะเก็ดลอกบางๆ ที่ขอบวงแหวนได้ด้วย
กลาก สามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งในร่างกายได้แก่ ศีรษะซึ่งถ้าเป็นมากจะกลายเป็นตุ่ม หนอง แฉะ เยิ้ม เรียกว่า “ฝีชันนะตุ” ส่วนลำตัว,แขน,ขา, ขาหนีบ กลากที่ขาหนีบนี่จะมีผื่นสีแดง มีขอบเขตที่ชัดเจนมาก บางครั้งถ้าเป็นมานานแล้วเรื้อรัง อาจจะมีสีน้ำตาลคล้ำขึ้น, มือ, เท้า,ใบหน้า พบกลากได้เช่นกัน แต่พบน้อยกว่าเกลื้อน ส่วนใหญ่มักจะมีอาการคัน ตั้งแต่คันมากถึงคันน้อย
เกลื้อน (Pityriasisversicolorหรือ Tineaversicolor) เป็นโรคทางผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง ชื่อว่า P. orbiculareเป็นกลุ่มเชื้อราที่ไม่ได้มีพิษสงร้ายกาจอะไรมากมาย ทำให้เกิดโรคเกลื้อนที่ผิวหนังเฉพาะส่วนบนชั้นตื้นๆ เท่านั้น
เกลื้อนจะมีลักษณะเป็นผื่นวงกลม หรือวงแหวนมีสีน้ำตาลหรือสีขาวจางๆ ขอบเขตค่อนข้างชัดเจน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร มักจะมีขุยลอกบาง ๆ ร่วมด้วยตัวผื่นของเกลื้อนจะไม่ค่อยนูนหนา หรือมีสะเก็ดพอกหนาดังนั้น ถ้าบางคนเป็นน้อยอาจสังเกตเห็นตัวผื่นเกลื้อนได้ไม่ชัดเจน ในส่วนของอาการนั้น บางคนจะมีอาการคันตอนช่วงที่เหงื่อออกมาก บางคนไม่มีอาการใดเลย
ส่วนที่เกลื้อนชอบเป็นพิเศษได้แก่ ลำตัว หลัง หน้าอก ต้นแขน ซอกคอ ใบหน้า สังเกตได้ว่าส่วนล่างของร่างกาย เช่น ขา เท้า เกลื้อนจะไม่ค่อยพบเชื้อราชนิดนี้ ชอบความร้อนชื้นมาก จึงมักพบเกลื้อนในคนไทยมาก เนื่องจากเมืองไทยมีอากาศ 2 ฤดู คือ ร้อนมากกับร้อนน้อย
คนทั่วไปมักสับสนระหว่างกลากกับเกลื้อนแต่ลักษณะของทั้งสองโรคนี้ต่างกัน คือ กลากจะมีลักษณะเป็นผื่นสีแดง มีขอบเขตชัดเจน มีรูปร่างเป็นวงกลมหรือวงแหวนขอบภายนอกมักมีสีเข้มกว่าผิวหนังด้านใน ถ้าลุกลามขยายออกมากขึ้นจะเห็นผื่นรูปวงแหวนมีขอบเขตชัดเจนยิ่งขึ้น อาจจะพบขุย สะเก็ดลอกบางๆ ที่ขอบวงแหวนได้ด้วยส่วนโรคกลากสามารถพบที่บริเวณผิวหนังได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า