เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนคงเคยประสบกับการปวดท้องประจำเดือน มีทั้งที่ปวดนิดหน่อยพอทนได้ ไปจนถึงปวดมากต้องพึ่งยาบรรเทาปวด คำถามที่ตามมาก็คือ อาการปวดท้องแบบที่เป็นอยู่นี้เป็นเรื่องปกติ หรือกำลังมีความผิดปกติใดเกิดขึ้นกับร่างกายของเรากันแน่??
ประจำเดือน หรือ รอบเดือน หรือ ระดู (Menstruation หรือ Period) คือ เลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ ที่หลุดลอกออกจากเยื่อบุโพรงมดลูก หรือเยื่อบุมดลูก โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง โดยสัมพันธ์กับการตกไข่ ซึ่งการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกจะเกิดประมาณเดือนละครั้ง ภาวะที่เกิดขึ้นนี้ จึงถูกเรียกว่า ประจำเดือนผู้หญิงโดยเฉลี่ยจะเริ่มมีประจำเดือนประมาณอายุ 12-13 ปี
โดยปกติแล้วการปวดประจำเดือนนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดกับเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือน โดยจากมีอาการปวดในช่วงแรกและจะปวดลดน้อยลง แต่ถ้าหากมีอาการปวดประจำเดือนมากคือ เดิมปวดเล็กน้อยพอเวลาผ่านไปมีอาการปวดมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถสงสัยเบื้องต้นได้ว่าอาจเกิดการผิดปกติ
เมื่อมีอาการปวดประจำเดือนมากหรือผิดปกติ อาจเป็นที่มาของการเกิดโรคต่างๆ ดังนี้
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) สามารถแบ่งเป็น 3 ชนิดย่อย คือ
– ช๊อกกาแลตซีสต์ : จะเกิดเฉพาะที่รังไข่ จึงเรียกว่าช๊อกโกแลตซีสต์
– จุดเลือดออกในอุ้งเชิงกราน : ส่องกล้องเข้าไปดูในท้องว่ามีจุดเลือดออกหรือไม่ บางครั้งใช้การตรวจภายในช่วย เพื่อดูจุดที่เจ็บการใช้อัลตร้าซาวด์ไม่สามารถเห็นได้
– ชนิดที่อยู่ในกล้ามเนื้อมดลูก มีอาการปวดท้องมาก เลือดออกกระปริกระปรอยหรือออกมากผิดปกติ อาจต้องได้รับการผ่าตัด
- เนื้องอกของกล้ามเนื้อมดลูก ก้อนเนื้องอกแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อมดลูก เวลามีประจำเดือนมดลูกจะบีบตัว เพื่อขับเลือดออกมา
- ปีกมดลูกอักเสบ เกิดจากการติดเชื้ออุ้งเชิงกรานอักเสบ มีอาการตกขาวบ่อย เป็นทั้งช่วงที่มีหรือไม่มีประจำเดือน ถ้ามีประจำเดือนอาการปวดท้องจะมากขึ้น