เพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่มีอาการจุกเสียด แสบร้อนกลางอก บ่อยๆ? โดยปกติแล้วอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวและมักเป็นหนักขึ้นเมื่อกินอาหารที่มีไขมันสูง รสจัดหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในหนังสือ ‘ต้องหาหมอไหมเนี่ย!’ กล่าวถึงอาการจุกเสียด แสบร้อนกลางอก ว่า
เกือบ 90% มีอาการจุกเสียดเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตามหลายคนเกิดอาการจุกเสียดบ่อยขึ้น โดยคนที่มีอาการหนักและบ่อยมากขึ้นนั้นจำเป็นต้องใช้ยาประจำตัวระงับอาการ แต่เมื่อกลืนลำบากแบบนี้ต้องไปพบแพทย์
อาการที่อาจเกิดขึ้น
- แสบร้อนบริเวณหลังกระดูกหน้าอก และยิ่งหนักขึ้นเมื่อก้มตัว นอนลงหรือว่ากินอาหาร
- อาหารไหลย้อนขึ้นมาและมีรสเปรี้ยวในปาก โดยเฉพาะเวลาก้มตัว
- มีการบวมพองหลังกินอาหารร่วมด้วย
แล้ว จุกเสียด แสบร้อนกลางอก แค่ไหนถึงต้องไปหาหมอ?
- เมื่อเริ่มอาเจียน เหงื่อออกมาก หายใจไม่ทัน เวียนหัว แน่นหน้าอกมากหรือถ่ายเป็นสีดำมีเลือดปน
- เมื่อกินยาลดกรดแล้วยังมีอาการจุกเสียดรุนแรง
- เมื่อไปหาหมอแล้วยังคงเป็นต่อเนื่องไปอีก 2-4 สัปดาห์
วิธีปรับพฤติกรรมเพื่อลดอาการ
นอกเหนือจากยาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาและยาที่หมอสั่งให้แล้ว การปรับพฤติกรรมของเราเองนั้นก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ หนังสือ ‘ต้องหาหมอไหมเนี่ย!’ ได้แนะนำ 9 วิธีปรับพฤติกรรมเพื่อลดอาการจุกเสียด แสบร้อนกลางอก ดังนี้
- ห้ามกินอาหารก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง
- ปรับหัวเตียงให้สูงขึ้น 6 นิ้ว
- ลดหรือเลิกเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ลดหรือเลิกสูบบุหรี่
- ลดหรือเลิกดื่มแอลกอฮอล์
- ลดการใช้ยาประเภท ASA และยาต้านการอักเสบ
- ลดอาหารที่มีไขมันสูง
- เลี่ยงอาหารรสจัดหรือที่มีใบสาระแหน่ เพราะมักทำให้เกิดอาการจุกเสียด
- ถ้าเคยกินอาหารอะไรแล้วทำให้แสบร้อน ให้ลด
แม้เป็นอาการเล็กน้อย แต่ถ้าปล่อยให้เป็นหนักเข้าก็อาจส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวันได้นะคะ