“กรดไหลย้อน” แค่เปลี่ยนนิสัย ก็ไม่ต้องกินยาแว้ว!!

0

อีกหนึ่งโรคระบบทางเดินอาหาร ที่เป็นกันมากในยุคนี้ถึงขั้นมีเพลงลูกทุ่งที่ใช้ชื่อ “โกรธไหลย้อน” เป็นการล้อชื่อโรคกลายๆ สำหรับ “โรคกรดไหลย้อน” แม้จะไม่ได้เป็นอันตรายมากมาย แต่ก็เป็นโรคที่ไม่มียาที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าคิดจะรักษาด้วยยา ก็ต้องกินยาไปตลอดชีวิต แค่คิดก็เพลียแล้ว แต่อย่าเพิ่งท้อ ถ้าอยากหาย แค่ปรับเปลี่ยนนิสัย ก็ไม่ต้องกินยาแล้ว

 

“กรดไหลย้อน” แค่เปลี่ยนนิสัย ก็ไม่ต้องกินยาแว้ว!!

 

โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease) มีสาเหตุจากกล้ามเนื้อหูรูดที่กั้นระหว่างกระเพาะอาหารและหลอดอาหารทำงานผิดปกติ ทำให้มีการไหลย้อนของสารคัดหลั่งที่อยู่ในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก เช่น กรด ด่าง แก๊ส ขึ้นมาที่บริเวณหลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆตามมา หลักๆ จะมีอาการ 2 อย่างคือ

1. อาการแสบยอดอก (Heartburn) ได้แก่ อาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ที่ลามขึ้นมาที่หน้าอกหรือคอ

2. ขย้อนหรือสำรอก (Regurgitation) ได้แก่ อาการเรอเปรี้ยว ซึ่งอาการดังกล่าวนี้มักจะเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหารมื้อหนักๆ การโน้มตัวไปข้างหน้า การยกของหนัก หรือการนอนหงาย ผู้ป่วยบางรายมีอาการ ไอ เสียงแหบ หอบหืด ฟันผุ เป็นต้น

สรุปคร่าวๆ ก็คือ คนเป็นโรคกรดไหลย้อน เกิดจากนิสัยเสีย อันได้แก่ กินข้าวไม่ตรงเวลา, กินอาหารรสจัดมาก โดยเฉพาะรสเผ็ดจัด, กินมากเกินไป, กินแล้วเข้านอนทันที และเครียดตลอดเวลาฉะนั้นถ้าไม่อยากพึ่งยาลดกรดต่างๆ ควรปรับเปลี่ยนนิสัย ซึ่งได้แก่ กินข้าวตรงเวลาทุกมื้อ ไม่กินรสจัด, กินแค่จานเดียว…ไม่ว่าอร่อยแค่ไหน, มื้อสุดท้ายกินก่อน 6 โมงเย็น ปรับฟีลลิ่งไม่ให้เครียด พยายามคิดบวก ทำตัวให้มีความสุข

ในส่วนของการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยสำหรับการนอนให้นอนในท่าตะแคงซ้าย, ยกศีรษะให้สูง, หลีกเลี่ยงการโน้มตัวไปข้างหน้าหรือยกของหนัก, หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น อาหารเผ็ด เปรี้ยว เค็ม อาหารที่มีส่วนประกอบของมะเขือเทศ อาหารประเภทมิ้นท์ อาหารมันมากๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, หลีกเลี่ยงการกินอาหารปริมาณมากๆ, หลีกเลี่ยงการเอนตัวหรือนอนหลังกินอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และงดสูบบุหรี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *