การติดเชื้อราที่เล็บ
มีชื่อภาษาอังกฤษเก๋ๆ 3 ชื่อ ไม่ว่าจะเป็น Onychomycosis, Fungal nail infection หรือ Dermatophyticonychomycosis ก็คือโรคเดียวกัน
เกิดจากการติดเชื้อราของเล็บ โดยมีเชื้อราหลายสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของโรคซึ่งแต่ละสายพันธุ์เหล่านี้จะมีความแตกต่างในการรักษาและในผลการรักษา โรคนี้พบในเพศชายมากกว่าหญิง พบบ่อยในผู้สูงวัยรวมถึงพบที่เล็บเท้ามากกว่าที่เล็บมือ
ปัจจัยเสี่ยงเกิดเชื้อราที่เล็บ ได้แก่…
- มีโรคเรื้อรังอื่นๆบางโรคร่วมด้วยเช่น โรคเบาหวาน, โรคสะเก็ดเงิน
- มีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกันต้านทานโรคเช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด
- มีการบาดเจ็บบริเวณเล็บบ่อยๆ หรือมีการทำลายของผิวหนังบริเวณขอบเล็บซึ่งเป็นส่วนที่ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่เล็บเช่น การใส่รองเท้าที่รัดแน่นไป, การล้างมือบ่อยๆ, การที่เล็บโดนสารระคายเคืองต่างๆ
- การถอดรองเท้าเดินตามห้องน้ำสาธารณะหรือห้องอาบน้ำรวม
- การมีสุขอนามัยที่ไม่ดีไม่รักษาความสะอาดร่างกายและเล็บ
เชื้อราที่เล็บติดต่อได้จากการสัมผัสกับเชื้อราโดยตรงเช่น การเกาผิวหนังที่มีการติดของเชื้อรา การติดเชื้อราที่เล็บมือจากการแกะเกาเล็บโดยเล็บของผู้ป่วยจะมีลักษณะผิดปกติ โดยมีโพรงใต้เล็บ มีการเปลี่ยนสีของเล็บ โดยมักเป็นสีเหลืองหรือสีขาว ผิวเล็บไม่เรียบ เล็บมีรูปร่างผิดปกติ เล็บอาจฝ่อไปส่วนมากไม่มีอาการเจ็บหรือปวด ยกเว้นในรายที่เล็บมีโพรงหรือมีการหนาตัวหรือผิดรูปมาก
การติดเชื้อราที่เล็บมีอัตราการรักษาหายอยู่ที่ประมาณร้อยละ60 – 80และแม้จะหายจากการติดเชื้อราที่เล็บแล้ว แต่เล็บที่ผิดปกติต้องอาศัยระยะเวลานานกว่าที่เล็บจะกลับเป็นปกติ (เล็บมือประมาณ 6 เดือน ส่วนเล็บเท้าประมาณ 12 เดือน)
ในบางรายอาจจะไม่สามารถกลับมามีลักษณะเหมือนปกติได้นอกจากนี้เชื้อราที่เล็บสามารถก่อผลข้างเคียงได้ด้วยนะ!