ช่วงฤดูฝนสภาพอากาศเอื้อให้เชื้อโรคหลายชนิดแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว หนึ่งในนั้นก็คือ “โรคอุจจาระร่วง” ซึ่งเป็นกลุ่มโรคติดต่อทางน้ำและอาหารที่หลายคนคงเคยได้ยินบ่อยๆว่าแล้วเรามาทำความรู้จักโรคนี้เพื่อหาทางป้องกันดีกว่า
โรคอุจจาระร่วง (Diarrhoeal Diseases) โรคที่ทำให้เกิดการถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะเหลวหรือเป็นน้ำเกินกว่า 3 ครั้ง/วัน หรือมีการถ่ายอุจจาระที่มีเลือดปนอย่างน้อย1 ครั้ง/วัน โดยโรคอุจจาระร่วงยังสามารถแบ่งได้ตามระยะเวลาที่ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม คือ อุจจาระร่วงเฉียบพลัน (หมายถึง มีอาการอุจจาระร่วงน้อยกว่า 7 วัน) และ อุจจาระร่วงยืดเยื้อหรือเรื้อรัง (หมายถึง มีอาการอุจจาระร่วงนานกว่า 7 วัน)
ความแตกต่างของโรคอุจจาระร่วงกับท้องเสียคือ ผู้ที่มีอาการอุจจาระร่วง มักจะเกิดจากโรคที่อาจจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาจากหมอ ขณะที่อาการท้องเสียเล็กน้อยไม่ถึงขั้นอุจจาระร่วงมักหายเองได้ โดยไม่ต้องรับการดูแลใดๆ
สาเหตุของโรคอุจจาระร่วง
1. เกิดจากการได้รับเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เข้าไปทางระบบทางเดินอาหาร (เช่น เชื้อ Enteropathogenic Escherichia coli)จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ
2. เกิดจากยาหรือสารพิษต่างๆเช่น สารตะกั่วที่ปนเปื้อนในอาหาร หรือกินเห็ดพิษ เป็นต้น
3. เกิดจากความผิดปกติของทางเดินอาหารเช่น การดูดซึมของลำไส้เล็กผิดปกติ โรคมะเร็งลำไส้
4. จากอารมณ์ตึงเครียด ซึ่งมักเป็นหลังจากกินอาหารใหม่ ๆ
การปฏิบัติตนเมื่อเป็นหรือสงสัยว่าป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วง
1.ควรฟักผ่อนให้มากๆ เพราะร่างกาย เพลีย ดื่มผงเกลือแร่ หากอ่อนเพลียหรือถ่ายมาก กินอาหารที่ย่อยง่ายเมื่ออาการทุเลา ถ่ายอุจจาระลงส้วมที่ถูกสุขลักษณะและระวังในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
2.หากอาการไม่ทุเลาหรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์
ฉะนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันการรับเชื้อหรือภาวะที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วง ควรรับประทานอาหารที่สุกใหม่ๆ ไม่มีแมลงวันตอม ดื่มน้ำต้มสุกหรือน้ำสะอาดล้างมือก่อนรับประทานอาหารหรือประกอบอาหาร