“โรคหอบหืด” เป็นอาการป่วยที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย เป็นโรคที่มีความทรมาน โดยอาการของโรคมักเป็นๆ หายๆ ส่วนใหญ่จะเป็นหนักในช่วงที่สัมผัสกับสิ่งที่แพ้หรือระคายเคืองรวมถึงหอบไอค่อนข้างหนักในตอนเช้า เวลาออกแรงมากๆ และตอนกลางคืน ฉะนั้นเพื่อป้องกันโรคกำเริบ ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้
โรคหอบหืด (Asthma)
โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ หรือก็คือโรคที่มีการตีบแคบของหลอดลมเป็นพักๆ ซึ่งเกิดจากหลอดลมมีภาวะไวเกินต่อการกระตุ้นจากสิ่งต่างๆ เมื่อมีการกระตุ้นจะทำให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดลมหดเกร็ง มีการบวมของเยื่อบุ และเสมหะถูกหลั่งออกมามากกว่าปกติ ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหอบ เพื่อเอาชนะความต้านทานในทางเดินหายใจที่เพิ่มขึ้น
อาการของโรคหอบหืด คือ “หอบ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ไอ หายใจมีเสียงวี๊ด อาการมักเกิดเป็นพักๆ โดยอาจเกิดอาการเมื่อออกกำลังกายหรือทำงานหนัก หรือมีอาการในเวลากลางคืน จึงนับว่าเป็นโรคที่มีความทรมานมาก”
หลักการรักษาโรคหอบหืด มีแนวทาง 3 ประการ คือ…
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้ด้วยการกำจัดสิ่งที่แพ้ให้มีอยู่ในบ้านหรือสถานที่ทำงานให้น้อยที่สุด
- การใช้ยาลดการอักเสบของหลอดลมหรือยาขยายหลอดลม ส่วนมากเป็นยาพ่นทางปาก
- การฉีดยาเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างความต้านทานต่อสิ่งที่ผู้ป่วยแพ้
โดยทั่วไปแล้วโรคหอบหืดเกิดจากอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น สปอร์ของเชื้อรา ฯลฯ ซึ่งความรุนแรงแต่ละรายไม่เหมือนกัน บางคนไวต่อสิ่งที่แพ้ก็จะทำให้เกิดอาการหอบหืดมาก
ขณะที่บางคนมีอาการหอบหืดน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เมื่อเข้าทำการตรวจรักษาแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้