4 โรคทางใจที่มากับน้ำท่วม พร้อมวิธีดูแลตัวเอง

0

ขณะนี้หลายจังหวัดยังคงประสบปัญหาน้ำท่วม และยังมีแนวโน้มฝนตกต่อเนื่องและอาจเกิดน้ำท่วมขึ้นได้อีกหลายพื้นที่ ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้ประสบภัยทั่วไป รวมถึงกลุ่มเสี่ยงที่มีความเปราะบางทางจิตใจ นอกจากปัญหาสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บที่ปรากฏให้เห็นทางกายภาพแล้ว ยังส่งผลต่อจิตใจอีกด้วยค่ะ

ข้อมูลจาก น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุว่า…

จากการประเมินสถานการณ์คาดว่าในช่วงที่น้ำลดนี้ ซึ่งเป็นระยะของการฟื้นฟู จำนวนผู้มีปัญหาสุขภาพจิตจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเห็นความเสียหายของทรัพย์สินปรากฏชัดเจนขึ้น รวมทั้งในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

โดยโรคทางใจที่พบบ่อยให้ช่วงน้ำท่วม ได้แก่…

4-mental-illnesses-that-come-with-floods

1.โรคเครียดรุนแรงหรือโรคพีทีเอสดี

โดยทั่วไปจะพบได้หลังเกิดเหตุการณ์ 3 – 6 เดือน แต่บางคนอาจเกิดได้เร็วกว่า มีอาการคือ ฝันร้ายถึงเหตุการณ์บ่อยๆ รู้สึกว่าจะเกิดซ้ำๆ อีก นอนไม่หลับ ตกใจง่าย ไม่มีสมาธิ อาการนี้หากเกิดในเด็กเล็ก จะส่งผลต่อพัฒนาการทางสมอง ทำให้ตัดสินใจไม่ดี ไม่มีสมาธิการเรียน รู้สึกไม่มีคุณค่า อาจมีอารมณ์ก้าวร้าวเมื่อโตขึ้น

2.ความเครียดและวิตกกังวล

จะมีอาการตื่นตระหนก มักมีมือสั่น ใจสั่น เหงื่อออก มักจะมีอาการปรากฏทางกายร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะบ่อยๆ ท้องอืด แน่นจุกเสียด ปั่นป่วนในท้อง คลื่นไส้ อ่อนเพลียไม่มีแรง นอนหลับยาก

3.ภาวะซึมเศร้า

จะมีทั้งอาการทางกายปรากฏ เช่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ทำงานไม่ไหว ปวดหัวบ่อยๆ ท้องอืด จุกเสียด นอนไม่หลับ และอาการทางจิตใจ คือ อารมณ์เศร้าหมอง ท้อแท้ ร้องไห้ง่าย เบื่อหน่าย ลืมบ่อย ใจลอย อยากตาย รู้สึกชีวิตไม่มีความหมาย ซึ่งเป็นภาวะที่มีอันตรายมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายได้ง่าย

4.ภาวะติดเหล้าและสารเสพติด

เป็นการแก้ไขปัญหาทางออกชีวิตที่ไม่เหมาะสม จะนำไปสู่การสูญเสียความสามารถด้านต่างๆ เช่น ความจำ อารมณ์


 

หากพบคนในครอบครัวหรือคนรู้จัก มีปัญหาและอาการที่กล่าวมา อย่าปล่อยให้อยู่คนเดียว ขอให้รีบไปพูดคุย หรือส่งตัวไปบำบัดรักษาโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามหรือนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *