หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “เจาะน้ำคร่ำ” ผ่านหูผ่านตามาบ้าง โดยเฉพาะหากประเด็นนั้นเกี่ยวข้องกับหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงการตรวจหาความผิดปกติต่างๆ ของเบบี๋ในครรภ์ ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักว่า “การเจาะน้ำคร่ำ” คืออะไร พร้อมเช็คความเสี่ยงกันค่ะว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ท่านใดบ้างที่ควร “เจาะน้ำคร่ำ”
“กิจกรรมทางกายสำหรับเบบี๋หรือเด็กปฐมวัย” มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างพัฒนาการให้สมวัย เพราะเป็นช่วงวัยแห่งการจดจำพฤติกรรม รวมถึงเป็นการสร้างนิสัยที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต ทั้งนี้ ในแต่ละช่วงวัย คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกน้อยมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมตามช่วงอายุนะคะ
เห็นดาราหลายคนมีลูกแฝด ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน รวมไปถึงกระแสละครที่กำลังมาแรงอย่าง บุพเพสันนิวาส ที่แม่นายการะเกดมีลูกแฝด ทำเอาสามีภรรยาหลายคู่ที่เปิดอู่พร้อมมีเจ้าตัวเล็ก อยากมีลูกแฝดบ้าง แต่เพราะการมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติเป็นเรื่องที่ต้องลุ้น เราไม่สามารถเลือกได้ว่าอยากได้เพศชาย เพศหญิง หรือฝาแฝด คำถาม คือ มีวิธีช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกแฝดหรือไม่? อย่างไร?
เกือบครึ่งของเด็กและวัยรุ่น จะประสบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงชีวิต ซึ่งผลกระทบต่อตัวเด็กย่อมมากน้อยไม่เท่ากัน เพราะแต่ละคนย่อมมีภูมิต้านทานแตกต่างกัน ทั้งนี้ ปัญหาบาดแผลทางจิตใจ อาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมอง บุคลิกภาพ อารมณ์ และการปรับตัวของเด็กได้ค่ะ
“การอ่านนิทานให้ลูกฟัง” ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากมายแต่ได้ผลตอบแทนสุดคุ้ม ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกพูดได้หรือเข้าใจภาษาก่อนถึงจะเริ่มอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พ่อแม่สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิดเลยทีเดียว เพียงแต่ถ้าอยากให้ได้ผลดีต่อพัฒนาการของเบบี๋ ก็ต้องเลือกนิทานให้ดีค่ะ
“ปลา” เป็นอาหารที่มีโภชนาการสูงเป็นแหล่งโปรตีนและแร่ธาตุสำคัญต่างๆ เช่น ไอโอดีน รวมถึงโอเมก้า3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ควรรับประทานไขมันกลุ่มนี้ให้เพียงพอจากอาหารที่หลากหลาย เพราะมีผลต่อสุขภาพของตัวคุณแม่เอง รวมถึงเจ้าตัวเล็กในครรภ์ด้วยค่ะ
“คันช่องคลอด” เป็นหนึ่งในอาการที่มักเกิดกับหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากมีฮอร์โมนออกมามาก จึงไปกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดด่างในช่องคลอด ทำให้เชื้อราเติบโตได้ดีขึ้น ไม่อยากหงุดหงิดใจเพราะอาการคันช่องคลอด เรามีวิธีดูแลน้องสาวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อป้องกันอาการดังกล่าวมาฝากค่ะ
เมื่อเจ้าตัวเล็กมีพฤติกรรมไม่น่ารัก เช่น ซุกซน ดื้อรั้น เอาแต่ใจ โกหก ชอบใช้กำลัง เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะคอยปรับพฤติกรรมของเบบี๋ให้เข้ารูปเข้ารอย เพราะการปล่อยผ่านหรือตามใจ ยิ่งเป็นการบ่มเพาะความรุนแรงของเด็ก ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจนยากจะรับมือค่ะ
ในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เชื้อยีสต์หรือราบริเวณช่องคลอดจึงเจริญเติบโตมากกว่าปกติ จนทำให้เกิดอาการคันและตกขาวได้ โดยอาการคันช่องคลอดอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อชนิดอื่นๆ เช่น แบคทีเรีย โปรโตซัว เริม
เพราะทารกน้อยไม่สามารถถ่ายทอดความต้องการหรือความรู้สึกของเขาออกมาเป็นคำพูดได้ ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ในการสังเกตความผิดปกติต่างๆ ของเบบี๋ เพื่อนำไปสู่การดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงทีค่ะ ว่าแล้วเราไปเจาะลึกถึงหนึ่งในอาการผิดปกติที่มักเกิดในทารกอย่าง “ภาวะซีด” กันค่ะ