ขณะนี้มีบางจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ยังคงประสบกับปัญหาอุทกภัย ทำให้ประชาชนหลายๆ กลุ่มวัยต้องอยู่ในสภาพไร้ที่อยู่อาศัยและต้องดำรงชีวิตด้วยความยากลำบาก ในส่วนของคุณแม่ที่มือใหม่มีลูกน้อยวัยทารกนั้น ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเลี้ยงลูกก็ยังคงเป็น “นมแม่” ค่ะ
คำแนะนำจาก นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า…
แม้ว่าหญิงตั้งครรภ์และแม่ที่กำลังให้นมลูกจะเป็นกลุ่มคนจำนวนน้อยหากเปรียบเทียบกับประชาชนกลุ่มวัยอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนในแต่ละพื้นที่ แต่ก็นับว่าเป็นกลุ่มวัยสำคัญที่ควรมีการดูแลสุขภาพตนเองและทารกอย่างถูกต้องเหมาะสม
สำหรับแม่ที่กำลังให้นมลูกไม่ควรตระหนกและตื่นตัวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเพียงอย่างเดียว ควรมีการดูแลสุขภาพตนเองและลูกควบคู่กันไป โดยผู้ที่เป็นแม่ควรกินอาหารที่ได้รับจากการบริจาคหรืออาหารปรุงสุกจากการแจกจ่ายสำหรับผู้ประสบภัยให้ครบทุกมื้อและเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ในยามภัยพิบัติที่น้ำดื่มน้ำใช้อาจไม่สะอาดเพียงพอ ขอให้คุณแม่ที่ให้นมลูกอยู่พยามให้ลูกกินนมแม่ต่อไป เนื่องจากเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกและนมแม่มีภูมิคุ้มกันโรคที่จำเป็นสำหรับทารก ส่วนกรณีทารกไม่กินนมแม่แล้ว แต่กินนมผสมหรือนมดัดแปลงสำหรับทารกอยู่นั้น แม่ต้องระมัดระวังเรื่องการชงนมตามสัดส่วนที่ระบุบนฉลากและให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ
ควรล้างมือให้สะอาดก่อนชงนมและควรชงด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น เช่น น้ำขวดที่มีเครื่องหมาย อย. หรือน้ำต้ม แล้วใช้ช้อนหรือถ้วยป้อนนมให้ลูก หลีกเลี่ยงการใช้ขวดนมและทำความสะอาดอุปกรณ์หลังลูกดื่มนมอิ่ม ส่วนเด็กที่ไม่สบาย เช่น มีไข้ ไข้หวัด ท้องเสีย เป็นภูมิแพ้ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่สำหรับการให้นมและอาหารและผู้ปกครองต้องดูแลเฝ้าระวังเด็กเป็นพิเศษ
สำหรับในส่วนแม่ที่อยู่ในศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็ควรเตรียมพื้นที่เพื่อใช้เตรียมนมสำหรับทารกและเด็กเล็ก เช่น กาต้มน้ำ หม้อต้มน้ำเดือดเพื่อต้มขวดนมที่ล้างสะอาด หม้อพักขวดนมที่ผ่านการต้มฆ่าเชื้อและนมดัดแปลงสูตรสำหรับทารก นอกจากนี้ แม่ต้องพยายามโอบกอดลูกและเล่นกับลูกบ่อยๆ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกสบายใจที่มีแม่คอยปกป้องดูแลแล้วยังลดความตึงเครียดของลูกลง
ทั้งนี้ นมแม่เป็นสารอาหารที่สำคัญ และสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดให้กับทารกแม้ในช่วงวิกฤต แม่ทุกคนจึง ไม่ควรละเลยในการที่จะต้องเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองให้นานที่สุดนะคะ