ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกตัวเตี้ย ฉะนั้นหากมีวิธีใดที่จะช่วยให้ลูกน้อยวัยซนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีรูปร่างสูงและแข็งแรง พ่อแม่คงไม่ลังเลที่จะปฏิบัติตาม หลายคนได้ยินได้ฟังมาว่าการรับประทาน “โกรว์ธฮอร์โมน” สามารถช่วยเพิ่มความสูงให้เด็กได้ อยากรู้ว่าจริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ เรามีคำตอบค่ะ
นพ.อี๊ด ลอประยูร ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ (BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า…
การที่คนเราสูงขึ้นเป็นเพราะกระดูกมีการเจริญเติบโต โดยกระดูกจะแบ่งเป็น กระดูกแข็ง และกระดูกอ่อน ซึ่งส่วนที่เจริญเติบโต คือ “กระดูกอ่อน” ที่อยู่ตรงปลายทั้งสองด้านของท่อนกระดูก โดยกระดูกอ่อนนี้จะมีมากในวัยเด็ก เมื่อกระดูกอ่อนถูกกระตุ้นให้เจริญเติบโต เด็กจึงเติบโต และสูงขึ้น ต่างจากผู้ใหญ่ที่กระดูกจะกลายเป็นกระดูกแข็งไปทั้งหมดแล้ว จึงไม่สามารถสูงขึ้นได้อีก
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก
- โกรว์ธฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งถูกกระตุ้นโดยต่อมใต้สมอง แต่การจะหลั่งมากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ อาหารการกิน และการนอนหลับพักผ่อนด้วย
- การออกกำลังกายที่มีการลงน้ำหนัก ถือเป็นสิ่งเร้าภายนอก ที่กระตุ้นการรับรู้ของร่างกายว่าจำเป็นต้องมีกระดูกที่แข็งแรงเพื่อรองรับการออกกำลังกาย สมองจึงสั่งการให้กระดูกต้องแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น และเส้นเอ็นแข็งแรงขึ้น จึงทำให้เด็กเติบโตสูงขึ้น
พ่อแม่หลายคนเชื่อว่า การซื้อฮอร์โมนมาให้ลูกกินจะช่วยทำให้เด็กสูงขึ้นมาได้ แท้จริงแล้วการเสริมด้วยฮอร์โมนจะจำเป็นในเด็กที่ขาดโกรว์ธฮอร์โมน แต่ไม่จำเป็นสำหรับเด็กที่มีการหลั่งของโกรว์ธฮอร์โมนเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งมีการศึกษาชัดเจนว่าการให้เด็กที่มีการหลั่งของโกรว์ธฮอร์โมนปกติกินฮอร์โมนเพิ่ม 2 – 3 เท่า ก็ไม่ช่วยให้มีความสูงเพิ่มขึ้น เพราะร่างกายมีอยู่แล้ว เปรียบเหมือนการกินแคลเซียมเสริมกระดูก ต่อให้กินมากเท่าไร ร่างกายก็ดูดซึมและนำไปใช้เพียง 300 มิลลิกรัมเท่านั้น
ที่สำคัญ การรับฮอร์โมนทั้งที่ร่างกายก็หลั่งตามปกติจะมีผลเสียมากกว่า เพราะร่างกายจะรับรู้ว่ามีปริมาณฮอร์โมนมากเกินพอแล้ว ส่งผลให้ต่อมใต้สมองที่ควบคุมการหลั่งของโกรว์ธฮอร์โมนก็จะหยุดทำงาน