รักต้องบอก (ลูก)

0

หลายครั้งคุณงามความดีของลูกอาจจะถูกบดบังไปด้วยความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่ ที่มุ่งอยากจะให้ลูกสมบูรณ์แบบจนหารอยตำหนิไม่เจอ ทำให้อดไม่ได้ที่จะตำหนิติเตียน จนพลาดโอกาสที่จะชื่นชมลูกไปอย่างน่าเสียดาย

ลองปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ มองหาข้อดี แล้วพูดถึงข้อดีนั้นออกมาให้ลูกได้ยินดังๆ แต่ต้องไม่ใช่การเปรียบเทียบในเชิงลบนะคะ  เช่น

“แหมวันนี้ขยันนะช่วยแม่ล้างจานด้วย  ไม่เหมือนทุกที  เรียกแล้วเรียกอีกก็ไม่ลุก  กว่าจะยอมมาช่วยได้” 

เพราะการชื่นชมลักษณะนี้ไม่ต่างอะไรกับการตอกย้ำความผิดพลาดในอดีตหรอกค่ะ คุณแม่ขา!

นอกจากนี้  คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถสังเกตดูได้ว่า มีเหตุการณ์ไหน หรือเรื่องใดที่ลูกได้ทำแล้วนำมาเล่าต่ออย่างภาคภูมิใจบ้าง นั่นละค่ะ เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะนำมาชื่นชมลูก เพราะหลักการหนึ่งของการชื่นชมก็คือ จะยิ่งเป็นการดีมาก ถ้าเราชื่นชมในเรื่องที่ผู้ฟังต้องการได้ยิน

การแสดงความรักด้วยการกระทำ และคำชื่นชมอย่างจริงใจของพ่อแม่ คือพลังที่จะผลักดันให้ลูกเป็นไปได้ทุกอย่างค่ะ ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกสอบได้ที่หนึ่ง แค่เขาได้คะแนนพอใช้ คำชื่นชมสั้นๆ จากคุณพ่อคุณแม่ว่า 

“นี่ก็เก่งแล้วลูก  ยิ่งถ้าหนูตั้งใจเรียนมากขึ้น ครั้งหน้ากยิ่งได้คะแนนดีขึ้นๆ นะลูก ”

รักต้องบอก-ลูก

เมื่อลูกทำดี ทำในสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ มีน้ำใจ หรือมีความพยายามให้เห็นอย่างเต็มที่ ก็ชมลูกเลยค่ะ ไม่ต้องรั้งรอ ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเหลิงความดี เพราะคำชื่นชมเล็กน้อย จากการกระทำเล็กๆ ในแต่ละวัน จะค่อยๆ ทยอยสะสมแต้ม กลายเป็นความรู้สึกด้านบวกที่ยิ่งใหญ่ ฝังรากลึก กลายเป็นพื้นฐานแน่นหนักของความรักที่จะก่อร่างสร้างความสุขในหัวใจของลูกต่อไปในวันข้างหน้าแน่นอนค่ะ

คำพูดและการกระทำเป็นสองสิ่งที่ทำให้เด็กสามารถสัมผัสและรับรู้ถึงความรักได้มากที่สุด  การโอบกอด สัมผัส ดูแล และอยู่เคียงข้างลูก เป็นการถ่ายทอดความรักและความอบอุ่นให้ลูกสัมผัสได้ดีกว่าการพร่ำพูดว่ารักผ่านข้อความทางโทรศัพท์ด้วยตัวหนังสือนะคะ  ถ้ารักลูกต้องบอกลูกค่ะ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *