ลดเสี่ยงฟันผุ ด้วยการดูแลช่องปากและแปรงฟันให้เบบี๋

0

ทำเอาพ่อแม่มือใหม่ตื่นตระหนกไม่น้อย จากกรณีที่มีเด็กชายมีฟันผุทะลุโพรงประสาทฟันและเกิดการติดเชื้อ จนจำเป็นต้องถอนฟัน เจาะระบายหนองออก และให้ยาฆ่าเชื้อ ที่น่ากลัวคือ การปล่อยปละละเลยการทำความสะอาดช่องปากและฟันของทารก อาจนำไปสู่การติดเชื้อในกระแสเลือด จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า…

ผลแทรกซ้อนจากการลุกลามของโรคฟันผุ ทำให้เกิดการติดเชื้อของเนื้อเยื่อในฟันและลุกลามจนเกิดหนองที่อวัยวะข้างเคียง เช่น แก้ม คาง ดวงตา ร้ายแรงที่สุดคือสามารถติดเชื้อในสมองและติดเชื้อในกระแสเลือด จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โรคฟันผุในเด็กเล็กมีผลต่อคุณภาพชีวิตของเด็กมาก เด็กจะเสียวฟัน ปวดฟัน กินอาหารได้น้อยลง ไม่ร่าเริง มีผลต่ออารมณ์และการนอนหลับ ซึ่งล้วนมีผลอย่างมากต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก

how-to-take-care-oral-health-of-baby-2

จากข้อมูลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ในปี 2560 พบว่าเด็กอายุ 3 ปี และ 5 ปี มีปัญหาฟันผุประมาณร้อยละ 53 และ 76 ตามลำดับ โดยในกลุ่มเด็กอายุ 3 ปี มีฟันผุที่ยังไม่ได้รับการรักษาสูงถึง ร้อยละ 52 ผู้ปกครองจึงควรตระหนักถึงผลเสียของฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษา จนเกิดการติดเชื้อ ทำให้การรักษามีความยุ่งยากมากขึ้น มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าการการดูแลป้องกันไม่ให้ฟันผุตั้งแต่ต้น

ทั้งนี้ โรคฟันผุในเด็กเล็กสามารถป้องกันได้ โดยพ่อแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญต้องไม่ละเลยการทำความสะอาดช่องปากให้เด็ก เช็ดช่องปากด้วยให้สะอาดเมื่อฟันยังไม่ขึ้น แปรงฟันตั้งแต่ฟันซี่แรก เพื่อให้เด็กเกิดความเคยชิน เพราะการแปรงฟันที่ผสมยาสีฟันผสมฟลูออไรด์มีความสำคัญและเป็นวิธีการป้องกันฟันผุที่ดีที่สุด โดยการช่วยลูกแปรงฟันให้สะอาดจนถึง 6 ปี ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ให้สะอาดทั่วทั้งปาก ทุกซี่ ทุกด้าน ร่วมกับการลด ละ เลิก ขนมหวาน น้ำหวาน และการกินนอกมื้ออาหารไม่ให้เกินวันละ 2 ครั้ง

how-to-take-care-oral-health-of-baby-1

โดยพ่อแม่สามารถตรวจฟันลูกได้เองเบื้องต้น หากพบลักษณะสีขาวขุ่นบริเวณคอฟัน ซึ่งหมายถึงเด็กเริ่มมีรอยฟันผุระยะเริ่มต้น มีความเสี่ยง ในการเกิดฟันผุสูง เป็นช่วงวิกฤติก่อนที่รอยโรคเหล่านี้จะลุกลามเป็นรูผุ และเด็กจำเป็นต้องรับการรักษาโดยการอุดฟัน หากพบจุดสีดำหรือสีน้ำตาลบนผิวฟัน หรือพบรูฟันผุ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ก่อนที่รูผุจะลุกลามจนทำให้เกิดการติดเชื้อ จนเด็กปวดฟัน

ที่สำคัญเด็กควรมาพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น หรือไม่เกินอายุ 1 ปี และมาตรวจฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจฟัน รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ และเคลือบฟลูออไรด์ตามความเหมาะสม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *