หญิงตั้งครรภ์ จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ นอกจากการดูแลตัวเองอย่างใส่ใจและระมัดระวังแล้ว สมาชิกในบ้านควรให้ความสำคัญในการช่วยปกป้องคุณแม่ท้องจากการสัมผัสเชื้อ ให้คิดไว้เสมอว่าหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเปราะบาง
จากการสำรวจสถานการณ์การติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 พบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ 126 ราย เป็นหญิงไทย 64 ราย หญิงต่างด้าว 62 ราย โดยจังหวัดที่พบติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ สมุทรสาคร จำนวน 66 ราย กรุงเทพมหานคร 10 ราย และนนทบุรี จำนวน 7 ราย ตามลำดับ
โดยพบอาการปอดอักเสบในหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ ร้อยละ 22.22 เสียชีวิต 2 ราย มีทารกติดเชื้อ 10ราย ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 อาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย อยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ ไม่มีโรคประจำตัว โดยมีการฝากครรภ์ตามเกณฑ์ รายแรกติดเชื้อจากการเข้าไปในสถานที่แออัด ส่วนอีกรายติดจากคนในครอบครัว
วิธีดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สำหรับหญิงตั้งครรภ์ มีดังนี้
- งดออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น
- เว้นระยะห่างจากบุคคลใกล้ชิด เนื่องจากไม่มีทางรู้เลยว่า สมาชิกในบ้านได้รับนำเชื้อจากภายนอกเข้ามาแล้วหรือไม่
- กินอาหารที่ปรุงสุก โดยใช้ช้อนส่วนตัว รวมถึงงดใช้ของส่วนตัวร่วมกันกับคนในบ้าน
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ (อย่างน้อย 20 วินาที) หรือหากจำเป็น ให้ใช้แอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้น 70% ในการล้างมือ
- สวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองแพร่เชื้อให้กับคนอื่น และช่วยป้องกันละอองเสมหะหรือน้ำลายจากผู้อื่น
- ไม่สัมผัสบริเวณใบหน้าของตนเอง หรือหากจำเป็นต้องสัมผัสจริง ๆ ควรล้างมือด้วยสบู่ก่อน
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่มีประวัติสัมผัสเสี่ยงสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อนัดหมายตรวจหาเชื้อ หากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้แยกตัวและเฝ้าสังเกตอาการ พร้อมทั้งรอฟังผลการตรวจของผู้สัมผัสใกล้ชิด เมื่อพบว่ามีอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการ สำหรับการถ่ายภาพรังสีปอดเพื่อตรวจหาภาวะปอดอักเสบ สามารถทำได้ในหญิงตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย การใช้ยาต้านไวรัส สามารถใช้ได้เหมือนคนทั่วไป ยกเว้นในการตั้งครรภ์ช่วง 3 เดือนแรก แพทย์จะพิจารณายาต้านไวรัสตัวอื่นที่ไม่มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ หากอาการไม่รุนแรงมากสามารถให้นมลูกได้ แต่จะต้องเข้มงวดในมาตรการป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา หมั่นล้างมือ ไม่สัมผัสบริเวณใบหน้า ปาก และจมูกของลูก ที่สำคัญคืออย่าเผลอชื่นชมหอมแก้มลูก และขณะไม่ได้ให้นมลูกแนะนำให้นอนแยกกันเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร หรือมีฉากกั้น แต่อยู่ในห้องเดียวกันได้ ในกรณีที่ไม่สามารถให้ลูกดูดนมจากเต้าได้ แนะนำให้บีบน้ำนมและให้ผู้ช่วยป้อนแทน
การเก็บตัวอยู่บ้าน ทำจิตใจให้สงบ และสื่อสารกับสมาชิกในบ้านให้เว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเหมาะสมจะปลอดภัยกว่าสำหรับแม่ท้องในช่วงนี้ แต่ถ้าหากพบว่าตัวเองมีอาการที่บ่งชี้ว่าอาจติดโควิด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที