อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ๆ สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกหลานอยู่ในวัยซน เนื่องจากเด็กวัยนี้อยู่ไม่นิ่ง ซุกซน ชอบสำรวจ จึงมักเสี่ยงต่อการได้รับบาดแผลจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ได้ง่าย จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะต้องป้องกันและดูแลไม่ให้เจ้าตัวซนบาดเจ็บ นอกจากนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลบาดแผลด้วย
เด็กวัยซนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต มีการเรียนรู้ ทำกิจกรรมต่างๆ จึงควรได้รับพลังงานและสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสม ในส่วนของมื้อหลัก เช้า-กลางวัน-เย็น
“อาหารกลางวัน” ถือเป็นอีกหนึ่งมื้ออาหารที่สำคัญ โดยเด็กควรได้กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เพื่อให้ได้สารอาหารที่เหมาะสม ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต มีพัฒนาการสมวัย
เด็กวัยกำลังหัดเดิน หรือเดินคล่อง สามารถวิ่งเล่นไปมาได้อย่างรวดเร็ว มักจะไม่ค่อยระมัดระวังตัว รวมถึงชอบสำรวจสิ่งรอบตัวบางครั้งเพราะความซุกซนอยากรู้อยากเห็นก็มีอันต้องเจ็บตัวอยู่บ่อยครั้ง
เพราะความอยากรู้อยากเห็น ชอบสำรวจสิ่งรอบตัว เด็กวัยซนจึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เรียกว่าถ้าพ่อแม่ปล่อยออกไปให้วิ่งเล่นกลางแจ้ง มักจะได้แผลกลับบ้านมาเป็นของฝากไม่มากก็น้อย การดูแลแผลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ
เพราะเด็กวัยซนเป็นวัยที่ร่างกายมีภูมิต้านทานค่อนข้างต่ำ ทั้งยังมีความอยากรู้อยากเห็น ชอบเล่นซนไปทั่ว จึงเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและได้รับอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อยู่เสมอ
เด็กอายุ 3-6 ปี เป็นวัยสามารถบังคับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดี เดินได้คล่อง สามารถวิ่งและกระโดดได้ดี ซนไม่ค่อยอยู่นิ่ง เรียกว่าเป็นวัยที่พ่อแม่ต้องจับตามองแทบทุกฝีก้าว เพราะเผลอให้คลาดสายตาแค่ไม่กี่นาที อาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุได้
ปิดเทอม ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเด็กๆ ส่วนใหญ่ เพราะสามารถวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ โดยไม่มีเวลาจำกัดเหมือนตอนเปิดเทอมที่ต้องโฟกัสกับการเรียนเป็นหลัก แม้เจ้าตัวซนจะสนุกสนานแค่ไหน คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ห้ามละเลยลูกโดยเด็ดขาดนะคะ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและอาจรุนแรงถึงชีวิต!
“การปัสสาวะรดที่นอน” เป็นภาวะที่พบบ่อยในเด็ก ซึ่งมีสาเหตุจากหลายปัจจัย อาทิ พันธุกรรม, ความผิดปกติในการหลั่งฮอร์โมน ADH ไปจนถึงความเครียด แม้จะดูเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กส่วนใหญ่ต้องเคยเป็นกัน แต่ก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะเด็กปัสสาวะรดอาจนำมาซึ่งโรคบางอย่างได้ค่ะ
ธรรมชาติของเด็กย่อมซุกซนไม่อยู่นิ่ง มีโอกาสเมื่อไหร่มักวิ่งเล่นปีนป่ายไปทั่ว ไม่แปลกที่เด็กวัยนี้จะพลาดพลั้งเจ็บตัวอยู่บ่อยครั้ง และเพราะลูกรักเสี่ยงต่อการได้แผล พ่อแม่จึงควรเรียนรู้วิธีดูแลแผลของเด็กอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการติดเชื้อจนแผลลุกลามรุนแรง รวมถึงไม่ให้ทิ้งร่องรอยแผลเป็นที่ไม่น่าดูด้วยค่ะ