ในช่วงวัยระหว่าง 3 – 5 ปี และ 8 – 12 ปี คุณแม่อาจจะพบว่า ลูกบ่นปวดขาทั้งสองข้างทุกๆ คืน นั่นอาจเป็นเป็นเพราะว่าลูกกำลังเผชิญกับความปวด ที่เรียกกันว่า Growing Paints หรือที่เรียกันเป็นภาษาชาวบ้านว่าช่วงยืดตัวนั่นเองค่ะ
คุณพ่อคุณแม่หลายต่อหลายคนเกิดความไม่พึงใจ เมื่อพบว่าลูกของเราดูเป็นเด็กที่ไม่มั่นใจ ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่รู้จักปรับประยุกต์สิ่งต่างๆ รอบตัว พูดง่ายๆ คือไม่มีความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง …แต่ก่อนที่จะหงุดหงิดผิดหวังกับลูกลองใช้วิธีง่ายเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้ลูกได้ฝึกความคิดสร้างกันดีกว่าค่ะ เริ่มต้นด้วยสอนลูกให้มองภาพรวม มองกว้างๆ คิดให้กว้างๆ ก่อน
เด็กเล็กบางคนอาจจพูดช้าบ้าง ไม่ค่อยพูดบ้าง บางคนพูดตะกุกตะกักจนเหมือนคนติดอ่างแต่เมื่อถึงช่วงที่พัฒนาการเข้าที่เข้าทาง หรือได้รับการกระตุ้นและช่วยเหลืออย่างถูกวิธีจากคุณพ่อคุณแม่ก็กลับมาเป็นเด็กที่มีพัฒนาการทางการพูดได่อย่างปกติ แต่หากในบางรายมีอาการ ดังต่อไปนี้ ชักช้าไม่ได้แล้วนะคะ คุณพ่อคุณแม่ต้องควรพบนักอัตถะบำบัด* โดยเร็วเลยค่ะ!
ปัจจุบันมีอาหารสำเร้จรูปหลายอย่างที่ใช้เตรียมน้อย วิธีการไม่ยุ่งยากซับซ้อน แล้วก็อิ่มอร่อยได้อย่างรวดเร็ว พร้อมสำหรับช่วงเวลาเร่งรีบ ตัวเลือกแรกๆ ที่คุณพ่อคุณแม่มักเลือกให้เด็กๆ รับประทานแทนข้าวเช้าคงหนีไม่พ้น …ซีเรียลกับนมสด
ทฤษฎีการประเมินความฉลาดของเด็กมีอยู่มากมายหลายหลากเหลือเกิน แต่ใครจะรู้ล่ะคะว่า ความฉลาดและความถนัดเฉพาะด้านของเด็กสามารถส่งผ่านทาง DNA และแสดงออกให้เห็นทาง “นิ้วมือ” ก็ได้นะ แปลกจัง!!
อาการกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ อย่างที่ในภาษาอังกฤษมักมี suffix ต่อท้ายว่า phobia มักจะแสดงให้เห็นอาการเมื่อเด็กเริ่มโตและรู้เรื่อง เช่น กลัวความสูง กลัวที่แคบ กลัวความมืด ฯลฯ เด็กบางคนกลัวลิฟต์!! คุณแม่อาจจะเริ่มสังเกตเห็นชัดเมื่อพาลูกไปห้างสรรพสินค้า หรือตามโรงแรมต่างๆ คุณแม่คงต้องหาสาเหตุแล้วล่ะค่ะว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ลูกไม่ชอบเวลาที่ต้องอยู่ในลิฟต์ กลัวลิฟต์ไม่เปิด กลัวลิฟต์ตก แล้วแก้ปัญหาโดยการทำความเข้าใจกับลูกเสียใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ การพูดกับลูกที่อยู่ในวัยที่ช่างกลัวแบบนี้…
จุดเด่นของผู้ที่เป็นโรค LD คือ สามารถประมวลภาพใหญ่ได้เก่ง ในขณะคนที่จบด็อกเตอร์อาจจะคิดไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำอย่างไรก็ได้ ที่จะไม่ขัดขวางกระบวนการเรียนรู้ของเขา
การพูดติดอ่างมักจะเกิดกับเด็กในช่วงวัย 2-6 ขวบ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของเด็กในวัยนี้ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ไม่แก้ไขตั้งแต่ต้นก็จะทำให้ลูกพูดติดอ่างเป็นนิสัยไปตลอดชีวิตได้ ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตก่อนว่าลูดพูดติดอ่างเนื่องจากสาเหตุใด
การตี อาจเป็นวิธีการสอนเพื่อที่จะบอกว่าลูกทำผิด ทำให้ลูกหลาบจำ และไม่ทำผิดซ้ำอีก แต่ก็ทำให้เจ็บทั้งตัวคุณพ่อคุณแม่และลูกเลยนะคะ เพราะนอกจะทิ้งรอยแผลไว้บนร่างกายแล้ว ยังทิ้งแผลในใจที่ส่งผลเสียต่อลูกได้ ดังต่อไปนี้ค่ะ
หลายคนยังสับสนและแยกแยะความแตกต่างระหว่างเด็กที่เป็นโรคแอลดีกับเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นไม่ได้ เพราะยังไม่เข้าใจรักษาอาการของโรคทั้งสองแบบ