หมั่นสังเกตอาการลูก ถ้าไม่อยากให้ป่วย “โรคมือเท้าปาก”

0

ในช่วงฤดูฝนนี้มักพบเด็กเล็กป่วยด้วย “โรคมือ เท้า ปาก” โดยเฉพาะในสถานศึกษา ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ง่าย และเพราะโรคนี้ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน  อีกทั้งหากเกิดอาการแทรกซ้อนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ฉะนั้นพ่อแม่จึงควรหมั่นสังเกตอาการของลูกก่อนโรคจะลุกลามรุนแรงจนสายเกินแก้

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า…

จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 16 ส.ค. 60 พบผู้ป่วยแล้ว 49,019 ราย และเสียชีวิต 3 ราย ในจังหวัดจันทบุรี ราชบุรี และร้อยเอ็ด

ทั้งนี้ โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัสหลายชนิด แต่ชนิดที่รุนแรงมากและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์ทั่วไป คือ EV71

hfmd-in-kids

โรคนี้พบได้มากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ การติดต่อเกิดจากการได้รับเชื้อทางปากโดยตรง ซึ่งเชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการ ไอ หรือจามรดกัน

โรคนี้อาจมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น ซึ่งหายได้เองใน 7 – 10วัน ทั้งนี้ โรคนี้ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน จะรักษาตามอาการ ถ้าหากเด็กมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบนำเด็กไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที

จากรายงานของโรงพยาบาล 15 แห่งที่เข้าร่วมโครงการเฝ้าระวังเชื้อก่อโรคมือ เท้า ปาก ในกลุ่มเด็กแรกเกิด – 5 ปี ของสำนักระบาดวิทยา ในเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้รับตัวอย่างผู้ป่วยทั้งหมด 93 ราย ตรวจพบเชื้อ 28 ราย ในจำนวนนี้พบติดเชื้อ EV71 มากถึง 14 ราย (ร้อยละ 50)

สำหรับพื้นที่ที่ควรติดตามและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางเท่ากับ 2 เท่าขึ้นไป มี 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน เชียงใหม่ พิษณุโลก พะเยา แม่ฮ่องสอน ลพบุรี และสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรหมั่นสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากมีอาการไข้ร่วมกับแผลในปาก โดยอาจมีหรือไม่มีตุ่มน้ำที่มือหรือเท้าก็ได้ บางรายอาจมีเฉพาะไข้ ควรรีบพาไปพบแพทย์และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายเป็นปกติ และไม่ควรคลุกคลีกับผู้อื่น เพื่อชะลอการระบาดและการแพร่กระจายเชื้อ

นอกจากนี้พ่อแม่ควรสอนให้เจ้าตัวซนล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ รวมถึงทุกครั้งที่ใช้มือสัมผัสสิ่งสกปรก เพื่อป้องกันตัวจากโรคมือเท้าปากค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *