มัวแต่ดูแลเรื่องปากท้องให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบหมดหมู่แล้ว อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หรือแม้กระทั่งในรายที่มีลูกน้อยมากกว่า 1 คนแล้วก็ตามห้ามละเลยก็คือ…
สุขภาพปากและฟันของลูกรัก โดยการดูแลปากและฟันที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต ก่อนที่ฟันซี่แรกของเด็กจะขึ้น
ข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพปากและฟันของเด็กแรกเกิดถึง 5 ปี
- ควรให้เด็กดื่มนมแม่ แต่ถ้าเด็กกินนมผง นมผงไม่ควรมีลักษณะหวาน ถ้าจะให้เด็กรับประทานอาหารเสริมที่มีลักษณะเหนียวข้น ควรแปรงฟันให้เด็กหลังรับประทานอาหารเสริม
- ภายหลังให้นมแม่ หรือให้ดูดนมขวด ต้องหัดให้เด็กดูดน้ำตามทันที เพื่อล้างคราบนมออกจากผิวฟัน ป้องกันการเกิดฟันผุ อย่าปล่อยให้เด็กดูดนมจนหลับ โดยมีขวดนมคาปากอยู่ จะทำให้ฟันผุทั้งปาก และผุรอบฟันทั้งซี่ ถ้าเป็นมาก เด็กจะปวดฟัน ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้
- เมื่อฟันเบบี้ยังไม่ขึ้น หรือขึ้นเพียง 2-3 ซี่ ควรใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด ทำความสะอาดสันเหงือก กระพุ้งแก้ม บริเวณที่ยังไม่มีฟันขึ้น และบนตัวฟันที่ขึ้นแล้ว หลังดูดนมทุกครั้ง หรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน
- ควรฝึกเด็กดื่มนมจากแก้ว อย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่อายุประมาณ 7-8 เดือน เพื่อให้พร้อมที่จะเปลี่ยนมาดื่มนม จากแก้ว หรือดูดหลอดได้ เมื่ออายุ 1 ถึง 1 ปีครึ่ง เป็นอย่างช้า เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ จากการใช้นมขวดที่ไม่ถูกวิธี
- แปรงฟันให้เด็ก ด้วยแปรงสีฟันสำหรับเด็กที่มีขนอ่อนนุ่มเมื่อฟันเริ่มขึ้นหลายซี่
- สอนเด็กแปรงฟันด้วยตนเอง และพ่อแม่แปรงซ้ำจนกว่าเด็กอายุประมาณ 6-7 ขวบ เนื่องจากเด็กเล็กยังไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อลูกน้อย เช่น ผลไม้ ถั่วต้ม หรือเนื้อสัตว์อบแห้งแทนขนมหวานหรือลูกอม
- หมั่นตรวจและสังเกตฟันเด็ก โดยเปิดริมฝีปากเด็กดูฟัน ถ้าพบคราบสกปรกให้เช็ดหรือแปรงออก และหากฟันขุ่นขาวหรือเปลี่ยนเป็นสีดำหรือมีรูผุควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์
- ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและหาทางแก้ไขหากเกิดปัญหา
รู้แบบนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมหันมาใส่ใจสุขภาพช่องปากของเบบี๋กันด้วยนะคะ 🙂