“รกลอกตัวก่อนกำหนด” ภาวะอันตรายต่อคุณแม่และทารก

0

ในช่วงตั้งครรภ์ตลอด 9 เดือนนั้น เป็นระยะที่คุณแม่ต้องพยายามดูแลสุขภาพตนเองให้ดีที่สุด ทั้งเรื่องร่างกายและจิตใจ เพราะทุกอย่างล้วนมีผลถึงลูกน้อยในครรภ์ทั้งสิ้น แต่กระนั้นความเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติต่างๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้ เช่น รกลอกตัวก่อนกำหนด ถือเป็นภาวะที่แม้จะพบได้ไม่บ่อยแต่อันตรายมาก

“ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด” (Placental Abruption)

ภาวะที่มีการลอกตัวของรกที่เกาะในตำแหน่งปกติ  มีการคลอดตัวก่อนการคลอด หลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์จนถึงก่อนทารกคลอด รกอาจลอกตัวเพียงบางส่วน  หรือลอกตัวทั้งหมดก็ได้ ซึ่งตามปกติแล้ว รกควรจะลอกตัวออกจากโพรงมดลูก หลังจากที่ทารกคลอดออกมาเรียบร้อยก่อน ไม่ว่าจะคลอดทางช่องคลอด หรือผ่าคลอดทางหน้าท้องก็ตาม

placental-abruption

สาเหตุที่ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดนั้น อันตรายถึงชีวิตทั้งมารดาและทารกในครรภ์ เพราะว่ารกเป็นช่องทางการติดต่อระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ ทั้งสารอาหารและอ๊อกซิเจน หากรกมีการลอกตัวออกจากผนังมดลูก อาจทำให้ทารกขาดสารอาหารหรืออ๊อกซิเจน และทำให้มารดาเสียเลือดมากได้ ซึ่งภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดพบได้บ่อยสุดในไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ โดยมีอาการ เช่น เลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้อง มดลูกกดเจ็บ มดลูกมีการบีบตัวเกือบจะตลอดเวลา มีอาการซีด ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดรกลอกตัวก่อนกำหนด ได้แก่ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับอุบัติเหตุหรือถูกกระแทกที่หน้าท้องอย่างรุนแรง, มีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์, มีอายุมากกว่า 35 ปี, เคยมีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน, มีภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติ, คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือใช้สารเสพติด, การตั้งครรภ์ทารกแฝด, มีภาวะถุงน้ำคร่ำแตก, มีเนื้องอกในมดลูก, มีสายสะดือสั้น

ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดเป็นอันตรายต่อมารดา เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ ได้แก่ ช็อคจากการเสียเลือดมาก, มีภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติจากการเสียเลือดมาก, ตกเลือดหลังคลอด, ถูกตัดมดลูก, ไตวาย อวัยวะอื่นๆ ล้มเหลว หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นอันตรายต่อทารก เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ ได้แก่ ขาดอาหารและอ๊อกซิเจน, คลอดก่อนกำหนด หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตในครรภ์

การรักษาภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของภาวะรกลอกตัว และอายุครรภ์ ซึ่งหากภาวะรกลอกตัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ควรยุติการตั้งครรภ์ทันที เพื่อป้องกันอันตรายต่อแม่และเบบี๋ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *