ขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์มีสภาพอารมณ์แปรปรวน เครียด เศร้า ฯลฯ อันมีสาเหตุมาจากมาจากหลายปัจจัย ทั้งพันธุธรรม จิตใจ ฮอร์โมน และสิ่งแวดล้อม ร่างกายจะหลั่งสารเคมีและฮอร์โมนออกมามากขึ้น ทำให้เส้นเลือดที่ไปยังมดลูกและรกเกิดการหดตัว ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่ไปยังทารกในครรภ์ลดน้อยลง ผลตามมาอาจทำให้เกิดการแท้ง ทารกเติบโตช้าในครรภ์ ทารกติดเชื้อในครรภ์สูงขึ้น
1.อย่าปล่อยให้อารมณ์เศร้าเข้ามามีอิทธิพลเหนือคุณ
ควรหาอะไรทำเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นเวลาที่หดหู่ เช่น ไปสปา ไปดูหนังฟังเพลง เข้าคอร์สโยคะคุณแม่ท้อง นั่งสมาธิ หรือดูแลตัวเองด้วยวิธีใดก็ได้ เพื่อให้คุณกลับมารู้สึกดีกับตัวเองเหมือนเดิม ทั้งนี้ การออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน เล่นโยคะ จะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายแข็งแรง พร้อมต่อการคลอดอีกด้วย
2.หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดความเศร้า
เช่น ข่าวคนร่ำไห้จากการสวรรคต แล้วเปลี่ยนมานึกถึงหรือเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเบบี๋ตัวน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกแทน เช่น หาหนังสือหรือคู่มือเตรียมตัวเป็นคุณแม่มาอ่าน เรียนตัดเสื้อให้ลูก จะช่วยให้สบายใจและเพลิดเพลินใจมากขึ้น เรียกว่าให้ช่วงเวลาการเตรียมตัวนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขจะดีกว่าเคร่งเครียดหรือเศร้าโศกให้เสียสุขภาพจิตไป
3.พูดคุยปรึกษาสิ่งที่กังวลใจหรือระบายความเศร้า
ไม่ว่าจะเป็นกับคนรัก ครอบครัว และเพื่อนสนิท จะช่วยให้คุณแม่สามารถจัดการกับภาวะอารมณ์แปรปรวน และเปิดโอกาสให้คนอื่นได้รับรู้และเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่ได้ดีขึ้น ที่สำคัญการพูดคุยกันยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้น ทั้งนี้คนรอบข้างก็ควรเปิดโอกาสให้คุณแม่ตั้งครรภ์ให้ระบายความรู้สึก เพื่อผ่อนคลาย รวมถึงรับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจ
หากคุณแม่ยังรู้สึกไม่ดีขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและหาวิธีรักษาอาการดังกล่าว เพราะอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์รวมถึงส่งผลต่อสุขภาพคุณแม่ได้ค่ะ