1. กินอาหารครบ 5 หมู่
การกินอาหารครบ 5 หมู่ จะช่วยซ่อมแซม บำรุงและรักษาส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้สมบูรณ์ คุณแม่จึงควรกินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และเลือกที่ให้พลังงาน บำรุงเลือด เสริมแคลเซียม รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของลูก
2. หาข้อมูลดูแลตัวเอง
เมื่อตั้งครรภ์คุณแม่อาจรู้สึกกังวลกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้น ควรหาข้อมูล ทั้งจากการอ่านหนังสือ ดูเว็บไซต์ต่างๆ และการสอบถามคุณหมอ เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพครรภ์ให้ดียิ่งขึ้น
3. ฝากครรภ์ทันที
เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ ควรไปฝากครรภ์ทันที เพื่อคุณหมอจะได้ตรวจสุขภาพ แนะนำวิธีดูแลครรภ์ รับวิตามินบำรุงครรภ์ และทราบถึงความเสี่ยงของโรคต่างๆ ที่อาจตามมา เพื่อจะได้ป้องกันไว้ก่อน
4. ทำงานแต่พอดี
คุณแม่หลายคนยังต้องทำงานในระหว่างตั้งครรภ์ ดังนั้นไม่ควรโหมทำงานหนักเกินกำลัง ควรจัดสรรเวลาพักผ่อนเป็นช่วงๆ,ในระหว่างวัน ไม่ทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมง แม้จะรู้สึกว่ายังทำได้ แต่อาการอ่อนล้าอาจเกิดการสะสมและส่งผลภายหลังได้ค่ะ
5. อามรมณ์ดีเป็นนิจ
สุขภาพจิตของคุณแม่ส่งผลต่อร่างกาย และแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกาย และอารมณ์ของลูกน้อยในครรภ์อย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้น ในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ต้องดูแลอารมณ์ของตัวเองให้ปลอดโปร่ง สดชื่น แจ่มใสอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้สิ่งรอบกายมาทำลายพัฒนาการที่ดีของลูกเราเด็ดขาดค่ะ ท่องไว้ เพื่อลูกๆๆๆ ค่ะ