ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้พ่อแม่จำนนไม่น้อยเลี้ยงลูกด้วยการ “ใช้จอ” ไม่ว่าจะเป็น มือถือ แท็บเล็ต หรือโทรทัศน์ โดยหารู้ไม่ว่าการใช้สื่อผ่านจอในการเลี้ยงเด็กเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเลย ไม่ได้ช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้แย่ลง
รศ.นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ กุมารแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานแถลงข่าวความร่วมมือเพื่อเด็กไทยคุณภาพดี 4.0
อย่าปล่อยให้จอเลี้ยงลูก ว่า การใช้สื่อหรือจอในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ล้วนส่งผลกระทบต่อพัฒนาการเด็กทั้ง 4 ด้าน คือ…
1.ด้านภาษา
กล้ามเนื้อมัดเล็ก และสติปัญญา โดยพบว่าเด็กที่ได้ใช้สื่อผ่านจอจำนวนมากตั้งแต่อายุน้อย เสี่ยงที่จะมีปัญหาในเรื่องนี้ แม้จะเปิดไว้เฉยๆ แล้วคิดว่าลูกไม่ได้ดู แต่ขณะเดียวกันเด็กก็ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ แนวโน้มพัฒนาการในเรื่องนี้จะลดลง จากการศึกษามีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเด็กที่ใช้สื่อผ่านจอจะมีคะแนนพัฒนาการลดลงถึง 15 คะแนน
2.ด้านพฤติกรรม
จะก้าวร้าว ซน สมาธิสั้น มีพฤติกรรมออทิสติก คือ ดื้อ ต่อต้าน โลกส่วนตัวสูง สื่อสารกับคนอื่นน้อย แม้ดูเหมือนขณะใช้สื่อ เด็กจะนิ่ง แต่เมื่อขออุปกรณ์คืน เด็กจะไม่ยอม เกิดการดื้อร้น แต่พบว่าถ้าลดการใช้สื่อผ่านหน้าจอของเด็กลง พฤติกรรมเด็กก็จะกลับมาปกติได้
3.การควบคุมตนเองจะแย่ลง
ทักษะการทำงานของสมองระดับสูงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรู้คิด การควบคุมตนเองจะแย่ลง การแก้ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่ดี โดยหากใช้สื่อที่เปลี่ยนภาพหน้าจอเร็วๆ และขาดปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูก็จะมีปัญหาส่วนนี้มาก
4.นอนยากขึ้น
การนอนหลับยากขึ้น ระยะเวลาการนอนหลับลดลง ส่งผลต่อการจำและอารมณ์
ข้อแนะนำในการใช้สื่อกับเด็กเล็กอย่างเหมาะสม
เด็กอายุแรกเกิด – 2 ปี ต้องหลีกเลี่ยงการอยู่หน้าจอทุกชนิด เด็กอายุ 2 – 5 ปี ใช้หน้าจอกับพ่อแม่ ด้วยสื่อคุณภาพไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้จะต้องปิดหน้าจอ และให้เด็กได้อยู่กับพ่อแม่เพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกัน
อย่าปล่อยให้ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเป็นข้ออ้างในการ “ใช้จอ” เลี้ยงเจ้าตัวซน เพราะความสบายเพียงไม่นานอาจส่งผลต่อพัฒนาการลูก ถึงขั้นเสี่ยง “ออทิสติกเทียม” ได้นะคะ