“ไมเกรน” ในเด็ก อันตรายแค่ไหนและป้องกันได้หรือไม่?

0

โรคไมเกรนเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะที่พบได้บ่อย  และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก พบได้ตั้งแต่ช่วงวัยอนุบาล ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญเกิดจากพันธุกรรม เด็กจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ถ้าสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคไมเกรน

คำถาม คือ “ไมเกรน” ในเด็ก อันตรายแค่ไหน? สามารถป้องกันได้หรือไม่?

ข้อมูลจาก นายแพทย์ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า สำหรับปัจจัยภายนอกที่อาจกระตุ้นทำให้ปวดศีรษะ เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดในสมองที่มากเกินไป เนื่องด้วยสารเคมีในสมองที่ชื่อว่า เซโรโตนิน ทำงานไม่ปกติ โดยสารนี้ทำหน้าที่ควบคุมการหดขยายของหลอดเลือดในสมอง

how-is-migraine-in-children-dangerous-and-preventable

โรคไมเกรนแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ

  • ไมเกรนที่ไม่มีอาการเตือน พบมากที่สุดในกลุ่มที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน
  • ไมเกรนที่มีอาการเตือน อาการเตือนที่พบบ่อย ได้แก่ การมองเห็นผิดปกติ โดยจะเห็นแสงเป็นเส้นซิกแซกคล้ายฟันเลื่อย อาจจะมีหรือไม่มีสีหรือเห็นภาพมืดไปเป็นบางส่วน มองภาพไม่ชัด

พ่อแม่สามารถสังเกตอาการได้จากการที่เด็กมักบ่นปวดหัวทั้งที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีปัญหาเรื่องสายตา ปวดศีรษะบริเวณขมับ หรือหน้าผาก   แต่ละครั้งนานเกิน 1 ชั่วโมง ปวดมากเมื่อมีการเคลื่อนไหว คลื่นไส้อาเจียนในบางครั้ง

วิธีการดูแลและป้องกันเมื่อเด็กมีอาการไมเกรน

  1. หลีกเลี่ยงแสงแดด โดยการใส่หมวก ใส่แว่นตา กางร่ม
  2. หลีกเลี่ยงอาหาร ช็อกโกแลต ชีส อาหารแปรรูป ไส้กรอก บะหมี่สำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้อาจมีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้
  3. หลีกเลี่ยงการอดนอน นอนดึก การเล่นเกม การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ การออกกำลังกายที่รุนแรง และหักโหมมากเกินไป ควรพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
  4. เมื่อมีอาการปวดศีรษะไม่รุนแรงมากนัก ให้นอนพัก ถ้าอาการปวดไม่ดีขึ้นให้ทานยาพาราเซตามอล จะช่วยบรรเทาอาการปวด แต่หากมีอาการปวดศีรษะรุนแรงมาก ไม่ดีขึ้น ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ โรคไมเกรนในเด็กไม่มีอันตรายรุนแรง เพียงแต่จะกระทบต่อชีวิตประจำวันทำให้หงุดหงิดงอแงมากกว่าปกติ แต่อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการเจ้าตัวเล็กอยู่เสมอนะคะ 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *