สำหรับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ลูกๆ ถือได้ว่าเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจเลยใช่มั้ยละคะ? ไม่ว่าสิ่งที่ดีสุดสำหรับพวกเขาจะเป็นอะไร บรรดาพ่อๆ แม่ๆ ก็พร้อมที่จะตามใจและสรรหามาให้ด้วยความรักและความห่วงใยที่มีทั้งหมด แต่บางครั้งการตามใจ ปล่อยให้พวกเด็กๆ ได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่บอกถึงเหตุและผลให้พวกเขาได้เข้าใจอาจก่อให้เกิดปัญหาของการที่เด็กโดยสปอยล์มากเกินไป จนทำให้นิสัยเสียได้ ดังนั้น วันนี้แม่นุ่มเลยมีวิธีที่จะดูให้รู้ว่า ลูกของคุณกำลังเริ่ม ‘นิสัยเสีย’ แล้วหรือยัง?
โยนข้าวของด้วยความเกรี้ยวกราดบ่อยครั้งขึ้น
สัญญาณที่แน่นอนของเด็กนิสัยเสียคือมักจะพ่นอารมณ์เกรี้ยวกราดทั้งในที่สาธารณะและที่บ้านอยู่เป็นประจำ
ไม่เคยพอใจอะไรสักอย่าง
เด็กนิสัยเสียมักจะไม่สามารถแสดงความพึงพอใจกับสิ่งที่พวกเขามีอยู่ หากพวกเขาเห็นคนอื่นที่มีบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาจะต้องการ พวกเขาก็จะเรียกร้องขอมีบ้างอยู่เรื่อยๆ
ไม่ทำตัวให้มีประโยชน์
ไม่มีเด็กคนใดชอบที่จะทำความสะอาด แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยหัดเดินผ่านไปแล้ว เขาควรจะยินดีที่จะช่วยงานขนาดเล็ก เช่น การทำความสะอาดของเล่นของเขาเองหรือการหัดเก็บรองเท้าให้เข้าที่
ออกคำสั่งกับผู้ใหญ่
เด็กนิสัยเสียมักจะไม่จำแนกแยกแยะระหว่างเพื่อนกับผู้ใหญ่ พวกเขาคาดหวังว่าทั้งสองจะต้องฟังสิ่งที่ต้องการอยู่ตลอดเวลา
ทำกิริยาก้าวร้าวในที่สาธารณะ
บ่อยครั้งที่เขาทำให้คุณอายด้วยการแสดงกิริยาก้าวร้าวในที่สาธารณะเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจหรือเรียกร้องเอาสิ่งที่พวกเขาต้องการจากพ่อแม่
หวงของ
คุณอาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ จะหวงของเล่นหรือของใช้ของตัวเอง แต่เปล่าเลยนั่นเป็ฯสัญญาณที่เตือนว่า พวกเขาไม่รู้จักการให้หรือการเป็นผู้ให้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาการที่แสดงว่าพวกเขาเริ่มนิสัยเสียซะแล้ว
คุณต้องขอร้องพวกเขา
ในการที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างการให้เขาไปอายน้ำ เข้านอนหรือแม้แต่เก็บของเล่น คุณต้องเป็นฝ่ายขอร้องให้พวกเขาทำอยู่เสมอ
ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
พวกเขาจะทำเป็นเพิกเฉยต่อสิ่งที่คุณสั่งหรือบอกให้ทำอยู่เสมอ จนทำให้คุณเอือมระอาและนั่นเป็นสัญญาณที่เด่นชัดว่า “ลูกของคุณนิสัยเสีย”
เล่นคนเดียวไม่เป็น
ในอายุเฉลี่ยทั่วไปของเด็ก 4 ขวบ พวกเขาสามารถที่จะเล่นเพียงลำพังได้แล้ว แต่หากยังไม่ได้ นั่นแสดงว่าพวกเขาต้องการให้มีคนสนใจพวกเขาอยู่ตลอดเวลา
ต้องติดสินบน
จะคล้ายๆ กับข้อที่คุณต้องขอร้องให้พวกเขาทำอะไรสักอย่าง สิ่งที่คุณไม่ควรทำมากกว่านั้นคือติดสินบนลูกๆ เพื่อให้พวกเขาทำเรื่องที่พวกเขาควรทำเองได้แล้ว นั่นจะทำให้พวกเขาร้องขอมันไม่จบสิ้นและไม่เคยรู้จักพอนั่นเอง