รถ (เข็น) คันแรกของหนู แม่ต้องดูดีๆ!!

0

ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่องการเลือกซื้อรถเข็นให้ลูก แม่นุ่มอยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาดูความจำเป็นตามสภาพการใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวดูก่อนค่ะว่าจำเป็นต้องพึ่งพารถเข็นเด็กมากน้อยแค่ไหน  บางบ้านอาจจะไม่มีโอกาสได้ออกไปไหนต่อไหนมากมาย  บางบ้านเมื่อซื้อมาแล้วจึงค้นพบว่าลักษณะนิสัยของลูกไม่ได้อำนวยต่อการใช้รถเข็น  คือ  ไม่ยอมนั่งนั่นเอง  ดังนั้นบ่อยครั้งเราจึงเห็นครอบครัวที่ใช้รถเข็นเด็กตามห้างสรรพสินค้าต้องกระเตงลูก  หอบของ  แล้วยังต้องเข็นรถเปล่า  ดูทุลักทุเลยังไงชอบกล  หนักๆ เข้าก็กลายเป็นว่าต้องใช้รถเข็นเด็กเป็นรถขนของแล้วอุ้มลูกแทน

แต่ถ้าหากพิจารณากันแล้วเห็นถึงความจำเป็นในการใช้รถเข็นเป็นอุปกรณ์ผ่อนแรง  เราก็มาเลือกดูกันตามความเหมาะสมเลยคะ

ข้อควรคำนึงก่อนเลือกซื้อรถเข็นเด็ก

รถ (เข็น) คันแรกของหนู  แม่ต้องดูดีๆ!!

  1. พิจารณาตามอายุลูก

ข้อนี้เรียกได้ว่าสำคัญมาก  เพราะหากคุณมองแต่ความคุ้มค่าซื้อเผื่อโต  โดยเลือกรถเข็นสำหรับเด็กโตมาใช้กับเด็กเล็กๆ วัยเบบี๋  ย่อมก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าจะปลอดภัย  ทั้งในแง่ของอุบัติเหตุและในแง่ของสรีระ  สุขภาพร่างกายในระยะยาวด้วย   โดยทั่วไปรถเข็นแต่ละประเภทมักจะมีการกำหนดการใช้งานตามอายุหรือน้ำหนักของเด็ก  ซึ่งทำให้เราสามารถประเมินได้ว่า  รถเข็นประเภทไหนเหมาะกับวัยของลูกค่ะ

  1. พิจารณาตามลักษณะการใช้งาน

เราจะสังเกตได้ว่าโดยทั่วไปรถเข็นเด็กมักจะมีอยู่  3 ประเภทกว้างๆ  ได้แก่

  • รถเข็นแบบตะกร้า (stroller travel systems) 

รถ (เข็น) คันแรกของหนู  แม่ต้องดูดีๆ!! 1

เป็นรถเข็นที่มีลักษณะเหมือนตะกร้าที่สามารถประกอบเข้ากับตัวฐานที่มีล้อใช้เป็นรถเข็น และถอดตัวตะกร้าออกมาติดตั้งกับเบาะรถยนต์ (car seat) ได้สะดวกสบายแบบ 2 in 1   ซึ่งรถประเภทนี้เหมาะกับเด็กเล็กๆ ตั้งแต่วันเบบี๋ ไปจนถึงประมาณ 1 ขวบ  เพราะออกแบบมาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ  สามารถยกตะกร้าไปตามที่ต่างๆได้ โดยไม่ต้องอุ้มเบบี๋เข้าๆ ออกๆ รบกวนเวลานอน  แต่หลังจากนั้นก็ควรจะเปลี่ยนเป็นที่นั่ง car seat โดยเฉพาะหรือรถเข็นโดยเฉพาะ เพราะลูกคงตัวใหญ่ล้นตะกร้าจนคุณไม่สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้ทั้งตะกร้าอีกต่อไปแล้ว

ข้อดีของรถเข็นแบบนี้ คือ เหมาะสมสำหรับเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะ  แต่ข้อเสียคือ  ราคาค่อนข้างแพงและสามารถใช้งานได้เพียง 1-2 ปีเท่านั้น

  • รถเข็นแบบมาตรฐาน (standard-size stroller) 

รถ (เข็น) คันแรกของหนู  แม่ต้องดูดีๆ!! 2

เป็นรถเข็นรูปแบบที่เราพบเห็นกันทั่วไป  มักจะออกแบบให้สามารถปรับระดับขนาดต่างๆ ให้ใช้งานได้กับเด็กหลายช่วงวัย  เช่น  พนักปรับเอนได้หลายระดับ   สายรัดเข็มขัดปรับขนาดเล็กใหญ่ได้ตามขนาดเอวและขาของเด็ก  มีที่บังตาบังแดด  มีที่วางขวดน้ำขวดนม  สามารถเสียบโมบายแขวนของเล่นได้  มีช่องเก็บของใต้ที่นั่ง ฯลฯ  ดังนั้นรถเข็นลักษณะนี้จึงปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการใช้งานได้หลากหลาย  ตั้งแต่เด็กวัยแบเบาะ  วัยหัดนั่ง  ฝึกกินข้าว  ไปจนถึงวัยซนเดินได้วิ่งได้เลยทีเดียว  เรียกได้ว่าเป็นทั้งเปล  เก้าอี้กินข้าว  รถเข็นเดินเล่น  รถเข็นเวลาไปเที่ยว  ที่เกาะสำหรับหัดเดิน  และกลายมาเป็นของเล่นของลูกในที่สุด  รถเข็นแบบมาตรฐานจึงเป็นแบบที่คุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อเป็นส่วนใหญ่เพราะพิจารณาจากความคุ้มค่า  บริษัทผู้ผลิตก็มีให้เลือกหลากหลาย ระดับราคาสินค้าจึงมีหลากหลายให้ได้เลือกซื้อเช่นกัน

  • รถเข็นแบบก้านร่ม  (umbrella stroller) 

รถ (เข็น) คันแรกของหนู  แม่ต้องดูดีๆ!! 3

เน้นความสะดวกสบายในการใช้  การพับเก็บ  และการพกพา  ซึ่งง่ายและสบายมากเหมือนการกางร่มหุบร่ม  จึงมีชื่อเรียกว่าแบบก้านร่ม  ข้อดีคงไม่ต้องบอกซ้ำ  แต่รถเข็นประเภทนี้มีข้อจำกัดสำหรับเด็กเล็ก ที่กล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรงพอ  เพราะด้วยจุดเด่นเรื่องความสะดวกในการพกพาจึงทำให้วัสดุที่ใช้ไม่ใช่วัสดุที่หนาแน่นซึ่งช่วยในการทรงตัวและ Support สรีระของลูกเล็กๆเท่าที่ควร

อย่างที่ได้บอไว้ในตอนต้นนะคะว่า รถเข็นอาจไม่ใช่ a must สำหรับสิ่งของที่คุณพ่อคุณแม่ต้องซื้อ  แต่หากจะตัดสินใจซื้อแล้วก็ควรจะพิจารณาให้เหมาะและคุ้มค่ากับการใช้งานมากที่สุดค่ะ

 

ที่มาภาพ Stroller travel systems, Standard-size stroller, Umbrella stroller

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *