มึนๆ งงๆ สิทธิ-สวัสดิการใดบ้างหนอที่ “คุณแม่” จะได้รับ

0

คุณแม่มือใหม่หลายท่านอาจจะกำลังเห่อและดีใจที่คุณจะได้ทราบว่ากำลังเป็น “แม่” แล้ว แต่คุณทราบหรือไม่ว่า ความเป็นแม่นั้นรัฐบาลไทยเองก็ได้ให้ความดูแลเช่นกัน ซึ่งสิทธิและสวัสดิการต่างๆ นั้นก็มีมากมาย และมีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ

แต่อย่าเพิ่งเวียนหัวไปค่ะ ลองมาฟังทางนี้จะทำให้คุณทราบว่าคุณแม่ทั้งหลายนั้นได้รับการดูแลและได้รับประโยชน์อะไรบ้าง

welfare

สิทธิลาคลอดและการได้รับค่าจ้าง

สิทธิในการลาคลอดตามกฏหมายกำหนดว่า ลูกจ้างทุกประเภทที่เป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาคลอดตามกฏหมายคุ้มครองแรงงานได้ สามารถลาคลอดเพื่อการคลอดบุตรครรภ์หนึ่งไม่เกิน 90 วัน และใช้สิทธิลาคลอดได้ทั้งก่อนและหลังคลอดโดยที่นายจ้างไม่มีสิทธิ์ยับยั้ง

ในการลาคลอดแต่ละครั้ง ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าจ้างจากนายจ้าง ในอัตราร้อยละ 50 จากเงินเดือน จำนวน 45 วัน และมีสิทธิขอรับประโยชน์ทดแทนจากประกันสังคมอีก 45 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเช่นกัน เฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน (คิดจากฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท) และในกรณีที่มาทำงานก่อนโดยไม่รอให้หยุดครบ 90 วัน คุณแม่จะได้รับค่าจ้างตามปกติในวันที่มาทำงานด้วย

สิทธิการได้รับเงินประกันสังคมค่าคลอดบุตร

คุณแม่ต้องเป็นผู้ประกันตน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร และจ่ายเงินสมทบประกันสังคมครบ 7 เดือน ตามประกาศคลอดบุตรตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป คลอดบุตรที่ใดก็ได้ สามารถเบิกได้สูงสุด 13,000 บาทต่อการคลอดบุตร 1 ครั้ง แต่ไม่เกิน 2 ครั้ง ยกเว้นถ้าคุณพ่อก็เป็นผู้ประกันตนด้วย ก็สามารถใช้สิทธิของคุณพ่อกับบุตรคนที่ 3 และ 4 ได้

ในกรณีที่คุณพ่อคุณท่านใดท่านหนึ่งเป็นข้าราชการ ก็สามารถใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กรณีคลอดบุตรได้ โดยเบิกจ่ายเงินส่วนเกินจากประกันสังคมได้ มีเงื่อนไขดังนี้

  1. ต้องการคลอดบุตรจากโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น
  2. การเบิกส่วนเกินจากสิทธิประกันสังคม จะต้องเบิกผ่านระบบเบิกจ่ายตรง สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการเท่านั้น (ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร)โดยสอบถามจากหน่วยงานที่สังกัดอยู่
  3. เมื่อเข้ารับการรักษาเพิ่อคลอดบุตรในโรงพยาบาลแล้ว จะต้องแจ้งขอใช้สิทธิรับเงินค่ารักษาพยาบาลเฉพาะส่วนเกินประโยชน์ทดแทนฯ (แบบ 7106)

สิทธิการได้รับเงินประกันสังคมค่าสงเคราะห์บุตร

คุณแม่ต้องเป็นผู้ประกันตนและจะต้องจ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีสงเคราะห์บุตรมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือนก่อนที่จะทำเรื่องขอเบิก จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ซึ่งเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ โดยใช้สิทธิได้คราวละไม่เกิน 2 คน เอกสารจำเป็นที่ต้องเตรียมไปขอรับประโยชน์ได้แก่

– แบบสปส.2-01
– สำเนาสูติบัตรของบุตร
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
– ทะเบียนสมรสพร้อมสำเนา (ถ้ามี)
– สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่ บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร)

คุณแม่หรือคุณพ่อสามารถนำมายื่นขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัดทุกแห่ง หากคุณแม่ท่านใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่ม เติมได้ที่ http://www.sso.go.th/ หรือสายด่วนประกันสังคม 1506

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *