ทำอย่างไรเมื่อจมูกเล็บไม่แข็งแรง ฉีกบ่อย

0

77

 

มือเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายที่หลายคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก ทั้งที่บริเวณมือนั้นหยิบจับสิ่งต่างๆ ตลอดทั้งวัน และเป็นสิ่งที่ต้องการการทำความสะอาดบ่อยสุดแต่ถูกละเลยจนเกิดปัญหาผิวได้ หลายคนอาจประสบปัญหากับอาการที่เรียกว่า โคนเล็บหรือจมูกเล็บฉีก ไม่แข็งแรงอยู่เสมอ แล้วอะไรคือสาเหตุรวมทั้งบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพในชีวิตประจำวันของเราได้ด้วยว่าพฤติกรรมแบบไหนที่ส่งผลให้เกิดอาการดังกล่าว
1. แพ้ ระคายเคือง
จากสารในนำ้ยาชะล้างต่างๆ อาทิ นํ้ายาล้างจาน นำ้ยาล้างห้องนํ้า สบู่ ผงซักฟอก ที่มีฤทธิ์ชะล้างอย่างแรงทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง แห้ง และลอกได้

2. ทำเล็บเป็นประจำ
การทำเล็บเพื่อความสวยงามเป็นสิ่งที่คู่กันกับผู้หญิง เพราะนํ้ายาล้างเล็บ น้ำยาทาเล็บและสารเคมีต่างๆ เราสัมผัสโดยตรงจากการทำเล็บ และขาดการบำรุง

3. ขาดโปรตีน และขาดนํ้า
อาจเป็นไปได้ว่าคุณรับประทานอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น อาหารประเภทเนื้อ นม ไข่ รวมทั้งการดื่มนํ้าน้อย ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าร่างกายประกอบด้วยมวบของนํ้าเป็นส่วนมาก และการดื่มนํ้าน้อยนั้นส่งผลให้ผิวแห้ง ผิวบริเวณจมูกเล็บก็เช่นกัน

4. พักผ่อนน้อย ไม่เพียงพอ
อีกหนึ่งสาเหตุอาจเกิดขึ้นโดยเราไม่รู้ตัวคือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะส่งให้ระบบภายในร่างกายทำงานผิดปกติ และได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะสารต้านอนุมูลอิสระจะสูญเสียไป ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคืองง่ายและบอบบางในที่สุด

5. ขาดการบำรุงความชุ่มชื้น จากครีมและโลชั่นในการบำรุงมือหรือเล็บ
วิธีแก้ไขและดูแลเล็บ
1. สังเกตการใช้สารชะล้างต่างๆ ว่าแรงเกินไปหรือไม่ ในกรณีที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ให้หาถุงมือเพื่อป้องกันการสัมผัสสารเคมีต่างๆ เหล่านั้นโดยตรง

2. บำรุงด้วยนํ้ามันที่มอบความชุ่มชื้น เช่น ประเภทนํ้ามันมะกอกหรือมะพร้าว พร้อมกับสำลีนำมาชุบแล้วพันรอบนิ้วข้างละประมาณ 10 นาที จากนั้นนำแปรงสีฟันมาถูเบาๆ บริเวณจมูกเล็บคล้ายการสครับ แต่ควรทำแบบเบามือนะคะ จากนั้นล้างมือให้สะอาด แล้วตามด้วยการลงแอนด์ครีม หรือบำรุงเล็บโดยเฉพาะค่ะ

3. บำรุงด้วยครีมเข้มข้นเริ่มจากแช่นํ้าอุ่นไม่เกิน 5 นาที แล้วใช้แปรงสีฟันค่อยๆ ขัดเบาๆ แบบข้อ 2 ทำให้มือแห้ง แล้วนำครีมทามือหรือเล็บโปะแบบหนาสักหน่อย จากนั้นตามด้วยคอตตอนบัดค่อยๆถูกขัดเบาๆ ตรงจมูกเล็บ แล้วค่อยตัดหนังที่ลอกออกค่ะ

4. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายผลิตสารต้านอนุมูลอิสระออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นควรดื่มนํ้าให้เพียงพอและเหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย ไม่มากหรือไม่น้อยเกินไปนะคะ

5. เลี่ยงการดึง ฉีก แกะ จมูกเล็บที่ลอก เพราะยิ่งเป็นการทำร้ายผิวและทำให้ผิวอาจมีเลือดออกติดเชื้อหรืออักเสบได้ค่ะ ให้เลือกใช้กรรไกรตัดหนังตัดออกจะดีกว่าค่ะ

 

การดูแลผิวเล็บและผิวมือนั้นไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เพียงแต่ต้องอาศัยการใส่ใจและสังเกตกันเสียหน่อยว่าร่างกายของเรามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะแก้ไขได้ทันและมีผิวที่สุขภาพดีค่ะ

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *