“น้ำตาล” กินอย่างไรไม่ให้ทำร้ายสุขภาพ
แม้หลายคนจะเลือกที่ไม่กินน้ำตาล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกาย แต่จะรับประทานน้ำตาลอย่างไรให้พอดี และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
แม้หลายคนจะเลือกที่ไม่กินน้ำตาล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกาย แต่จะรับประทานน้ำตาลอย่างไรให้พอดี และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
การติดน้ำตาล ติดหวาน ไม่ใช่เรื่องดี เพราะนั่นอาจนำพามาซึ่งโรคร้ายมากมาย เช่น ความดัน เบาหวานและโรคอ้วน เป็นต้น ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการทานของหวานและน้ำตาลให้น้อยลง โดยทำได้ด้วยการแก้อาการติดหวาน ดังนี้
คงไม่มีใครปฎิเสธว่ารสชาติแห่งความหวานมักชวนให้หลายคนติดอกติดใจแต่รู้หรือไม่การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็นนั้นเป็นบ่อเกิดของโรคเรื้อรังอีกหลายชนิดตามมา รวมทั้งเป็นต้วการสำคัญที่เข้าไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวด้วย!
สงครามต่อสู้กับความอ้วน นอกจากจะไม่น้อยลงแล้ว นับวันจะมากขึ้น ผู้หญิงทุกวันนี้ เฉลี่ยน้ำหนักตัว รอบเอว รอบสะโพกใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงมีผู้คิดค้นตำรับตำราไดเอทใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ก็เพราะสูตรไดเอตเดิมไม่เห็นผลนั่นเอง ลองมาดูกันซิว่าตำราไดเอตสูตรไหน มีผลดีผลเสียอย่างไรกันบ้าง จะได้เลือกลองให้ถูก
ระยะหลังนี้น้ำตาลโดนกระหน่ำหนัก… ซึ่งก็ด้วยเหตุผลที่สมควรอยู่หรอก รับน้ำตาลมากเกินไปคือ ตัวการเบื้องหลังประเด็นสุขภาพทรุดโทรมของเราในทุกวันนี้แหละ เช่น น้ำหนักตัวเกินพิกัด และเบาหวานประเภท 2 อีกทั้งส่งผลต่อหัวใจ และไต
ทำเอาหลายคนออกอาการเฟลกันเลยทีเดียว เพราะหลงคิดไปว่า “นมจืด” เป็นเครื่องดื่มที่คู่ควรแก่การลดน้ำหนักเพราะปราศจากน้ำตาล ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่ข้อเท็จจริงก็คือ มีการเขียนปริมาณน้ำตาลระบุไว้บนข้อมูลโภชนาการของนมวัวรสจืดจริงๆ
มีใครบ้างที่ไม่ชอบ แต่ที่ต้องหักห้ามใจเอาไว้ก็เพราะผลที่จะตามมาก็คือ น้ำหนักตัว กับรูปร่างที่แย่ของเรานั่นเอง น้ำตาลนี่ล่ะที่ทำให้เราอ้วน มาดูกันว่ามันจริงหรือเปล่า