การลดน้ำหนักจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ได้เกิดมาจากปัจจัยเดียว แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับการลดน้ำหนัก ตั้งแต่การกิน การออกกำลังกาย รวมถึงการติดตามความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของตัวเอง
ช่วงหลายปีนี้ เรามักเห็นข่าวผู้เสียชีวิตจากโรคซึมเศร้าสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ทราบไหมว่ายังมีอีกหนึ่งโรคที่คุกคามชีวิตได้ไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นคือ “ไบโพลาร์”
มีการคาดการณ์ล่วงหน้าว่า อาหารและโภชนาการที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำเทรนด์ในปี 2019 นี้นั้นมีอะไรบ้าง? รายงานข่าวของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นแล้วในการจัดอันดับอาหารประจำปีเผยแพร่ออกมาแล้ว แม้ว่าจะเป็นการยากที่จะคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่นี่เป็นแนวโน้มบางประการที่น่าจะเกิดขึ้นในความสนใจของเพื่อนๆ สำหรับปีนี้ก็ได้นะ
วิธีลดอ้วนแบบ IF หรือ Intermittent Fasting ไม่เพียงแต่ช่วยเราลดน้ำหนักได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพช่องท้องให้ดีขึ้น ช่วยให้เรามีพลังงานมากขึ้น โฟกัสสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น และยังไม่หมดแค่เท่านั้นนะคะ การทำ IF ยังช่วยชะลออายุสมองไม่ให้เสื่อมก่อนวัยด้วยค่ะ
ข้อมูลการทดลองทางคลินิกแสดงให้เห็นว่าคนที่ตอบสนองต่อการรักษา Bipolar Disorder นั้นอาจได้รับอิทธิพลจากน้ำหนักและคุณภาพโดยรวมของอาหารที่บริโภค โดยผลลัพธ์ในระยะแรกนั้นพบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ (ผัก ผลไม้) หรือมีดัชนีมวลกายที่ต่ำ (BMI)
โปรแกรมลดอ้วนที่เน้นคอนเซ็ปท์ “ชั่วโมงกินไม่แคร์ กับชั่วโมงแฟร์ๆ ห้ามกินไรทั้งนั้น” วิธีก็คือ ช่วงเวลา 10.00-18.00 น. เราสามารถกินอาหารอะไรก็ได้ เท่าไหร่ก็ได้ โดยตัดเรื่องแคลอรี่ออกไป แต่เมื่อพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว เราจะไม่สามารถทานอะไรได้เลยนอกจากน้ำเปล่าเท่านั้น!
เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก เมื่อมีการศึกษาจาก The Lancet วารสารการแพทย์ เวอร์ชั่นออนไลน์ ประเทศอังกฤษ ที่เปิดเผยเกี่ยวกับตัวเลขที่น่าตกใจที่ว่า มีผู้คนมากกว่า 19 ล้านคนทั่วโลกต้องประสบกับปัญหาโรคอ้วนที่ร้ายแรงไปยังจุดที่นักวิจัยสามารถประเมินได้เลยว่าปี 2025 จะเจอคนที่เป็นโรคอ้วนถึง 1 ใน 5 และแน่นอนว่านั่นคือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีนี้นั่นเอง การเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการศึกษามานานกว่า 45 ปี ทำให้มันเป็นหนึ่งในการศึกษาขนาดใหญ่ที่สุด…