การเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้
“การตั้งครรภ์ และคลอดบุตร” ทำให้ร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลง และบางส่วนได้รับผลกระทบอย่างมาก การฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาสู่สภาพปกติ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง
“การตั้งครรภ์ และคลอดบุตร” ทำให้ร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลง และบางส่วนได้รับผลกระทบอย่างมาก การฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาสู่สภาพปกติ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง
“แมว” ถือเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับต้นๆ ในบ้านเรา เพราะเสน่ห์เฉพาะตัวของเจ้าเหมียว ทำให้ผู้เลี้ยงหลายๆ คน ยอมเป็นทาสแมวไปโดยปริยาย แต่สำหรับคุณผู้หญิงที่เลี้ยงแมว และกำลังจะเป็นว่าที่คุณแม่มือใหม่นั้น อยากให้ระมัดระวังในการคลุกคลีกับน้องแมว ถ้าไม่อยากเสี่ยงติดโรค “ทอกโซพลาสโมซิส” ค่ะ
“อาการแพ้ท้อง” นับเป็นเรื่องธรรมดาที่มักเกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งโดยปกติแล้วจะหายได้เองเมื่ออายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 4 แม้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของอาการแพ้ท้อง แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน รวมถึงเกี่ยวข้องกับเรื่องจิตใจและอารมณ์ ว่าแต่เราจะป้องกันอาการแพ้ท้องได้มั้ยนะ?
“โรคเอดส์” เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวีทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่องและเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อน เรียกว่ายังคงเป็นโรคร้ายที่แค่ได้ยินหลายคนก็รู้สึกผวา เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้เบบี๋ในท้องเสี่ยงติดเชื้อเอดส์คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องรู้จักป้องกันตัวนะคะ
คู่สามีภรรยาส่วนมากรอวันที่จะมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ เพื่อเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์ เมื่อทราบว่า ภรรยาตั้งครรภ์ นอกจากความยินดีแล้ว ความกังวลก็อาจเข้ามารบกวนจิตใจ หนึ่งในนั้นคือเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า “เซ็กซ์” เป็นเรื่องสำคัญของผู้ชายและส่งผลต่อชีวิตคู่
“อาการปวดหลัง” เป็นอาการที่พบได้บ่อยตั้งแต่เดือนแรกจนใกล้คลอด สาเหตุเกิดจากมดลูกที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากขึ้นจากการเจริญเติบโตของเบบี๋ในครรภ์ ทำให้หลังของหญิงท้องต้องแบกน้ำหนักเพิ่มจนปวดหลัง ทั้งนี้ คุณแม่ท้องสามารถป้องกันอาการดังกล่าวได้ด้วย “การออกกำลังกาย” ค่ะ
แม่ท้องทุกคนมีความเสี่ยงที่จะมีลูกพิการบางอย่างแต่กำเนิด โดยไม่จำเป็นว่าต้องมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมาก่อนเลย ซึ่งความเสี่ยงนั้นเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ สุขภาพของแม่, ไม่ได้ฝากครรภ์ หรือคลอดก่อนกำหนด
การวางแผนการตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ โดยปัญหาคลอดก่อนกำหนดนี้ สามารถพบได้ทั้งการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและผู้ใหญ่อายุมากกว่า 35 ปี
แม่ท้องบางคนมักต้องยืน เดิน ในแต่ละวันเป็นเวลานานๆ ในขณะที่ขนาดของท้องก็ใหญ่โตขึ้นทุกวันๆ ทำให้กล้ามเนื้อขาและหลังต้องเกร็งตลอดเวลา เลือดที่ไหลเวียนก็ช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้า นอกจากการยืนนานๆ แล้ว ท่ายืนที่ไม่เหมาะสมก็มีส่วนทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ปวดเมื่อยร่างกายได้ค่ะ
“หญิงตั้งครรภ์” ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญของ “โรคกรดไหลย้อน” โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมนในร่างกาย การรับประทานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ ที่น่ากลัวคือ หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาตัว อาจนำมาสู่โรคมะเร็งหลอดอาหารได้ค่ะ