การมีหุ่นที่ดีเป็นสิ่งปรารถนาสำหรับสำหรับทุกคน เพราะภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนนอกจากจะทำให้ดูไม่สวยงามแล้วยังก่อให้เกิดโรคตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความดัน หรือเบาหวาน เป็นต้น
ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือ การลดอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่งบางคนก็สามารถลดน้ำหนักได้รวดเร็วเหลือเกิน แต่ระวังนะ การออกกำลังกายที่ผิดอาจทำให้เกิด “โยโย่” ขึ้นได้
โยโย่ หรือ Yoyo Effect คืออะไร?
การจะอธิบายภาวะนี้ได้ง่ายที่สุดก็คือ โยโย่ มันคือแรงเหวี่ยงของลูกดิ่ง (Yoyo) ที่เมื่อยิ่งเขวี้ยงออกไปแรงเท่าไร มันก็จะเด้งกลับมาแรงเท่านั้น ก็เปรียบเหมือนคนที่ลดน้ำหนักลงมาอย่างฮวบฮาบ รวดเร็ว แต่สุดท้ายน้ำหนักมันก็กลับเพิ่มขึ้นมาเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมเสียอีก ซึ่งก็เป็นผลมาจากการลดน้ำหนักที่ผิดวิธีนั่นเอง
เพราะเหตุใดจึงเกิดโยโย่?
สาเหตุที่ร่างกายเกิดภาวะโยโย่ ง่ายๆเลยก็คือ สมมุติโดยปกติ ร่างกายต้องการใช้พลังงานต่อวัน 1,500 kcal เรากินวันละ 1,800 kcal ซึ่งเรากินมากเกินไป 300 kcal สะสมทุกวัน ด้วยเหตุนี้เราจึงอ้วน
และต่อมาเราเริ่มรับไม่ได้จึงหันมาลดน้ำหนักด้วยการลดอาหาร เราจะกินลดลงไปเหลือวันละ 800 kcal แบบหักดิบสุดๆ ทั้งๆที่ร่างกายก็ยังต้องการใช้พลังงานวันละ 1,500 kcal จึงทำให้ติดลบไป -700 kcal ร่างกายกลัวเป็นอะไรก็เลยดึงพลังงานสะสมมาใช้ให้เพียงพอ
เมื่อเป็นแบบนี้ทุกวันน้ำหนักเราจึงลดได้อย่างฮวบฮาบ แต่สิ่งที่ตามมาคือร่างกายเริ่มปรับตัวให้ใช้พลังงานเหลือเพียง 800 kcal ต่อวัน แต่เมื่อวันใดที่เราพอต่อการลดน้ำหนักแล้ว และหันกลับมากินเหมือนเดิมก่อนช่วงลดน้ำหนัก หรือน้อยกว่า อย่าง 1,200 kcal แต่ร่างกายก็จดจำที่ 800 kcal ไปแล้ว จึงดึงมาใช้งานแค่นั้น ผลคือกลายเป็นกินเกินไป +400 kcal กลายเป็นไขมันสะสม แบบนี้ก็ทำให้อ้วนขึ้นมาอย่างรวดเร็วแน่นอน
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักคือ การควบคุมอาหารให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ควบคู่กับการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ อย่าหักโหม เมื่อเป็นเช่นนี้น้ำหนักจะค่อยๆลงและอยู่กับเราไปนานแสนนาน