สำหรับสาวๆคนไหนที่กำลังงงว่าตัวเองก็ผอมแต่มีพุงได้ไง งานนี้เรามีคำตอบมาให้ รับรองไขข้อสงสัยให้กระจ่างกันเลยทีเดียว อยากรู้หรือยังตามมาเลย
1.ไม่ออกกำลังกาย
สำหรับคนที่ผอมและคิดว่ารูปร่างพอดีอยู่แล้ว อาจไม่สนใจการออกกำลังกายเลย ซึ่งการคิดแบบนี้ไม่ถูก โดยเฉพาะคนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมกันได้ ดังนั้นการไม่ออกกำลังกายก็อาจทำให้มีพุงยื่นออกมาเป็นปัญหากับตัวเราได้ในอนาคต
2.ยึดตัวเลขเป็นที่ตั้ง
สาวๆท่านไหนชอบมองแต่ตัวเลขบนตาชั่ง บอกเลยว่ายังไม่ค่อยถูกเท่าไรนะ เพราะความจริงคือเราจะมองจากรูปร่างโดยรวมบวกกับการออกกำลังกายที่จะทำให้กล้ามเนื้อฟิตและมีสุขภาพดี เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน แล้วเปลี่ยนเป็นมวลกล้ามเนื้อ บางทีน้ำหนักเราอาจไม่ลดหรือลดลงทีละน้อยๆก็ได้ แต่แบบนี้จึงจะเรียกว่าการลดน้ำหนักที่ยังยืนและสุขภาพดี
3.ออกกำลังกายนะ แต่ไม่กระตุ้นกล้ามเนื้อ
ในคนที่รูปร่างดีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่มักออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการทำงานหัวใจ หรือเน้นหนักไปทางคาร์ดิโอ อย่างการวิ่งหรือการปั่นจักรยาน ซึ่งจะทำให้หัวใจและปอดมีสุขภาพดี แต่กล้ามเนื้อและไขมันสะสมในชั้นกล้ามเนื้ออาจไม่ได้ถูกเผาผลาญเท่าไร โดยเฉพาะการมองข้ามการฟิตกล้ามเนื้อด้วยการวิดพื้นเพื่อการกระตุ้นระบบเผาผลาญ และการเบิร์นไขมันอันตราย หากเป็นแบบนี้ก็อาจผอมแต่มีพุง ดูไม่กระชับได้
4.จัดเต็มอาหารไม่มีประโยชน์
ส่วนใหญ่เรามักชอบทานพวกขนมหวาน น้ำหวาน ฟาสต์ฟู้ด หรือบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ด้วยกันทั้งนั้น แต่รู้หรือไม่การทานแบบนี้แหล่ะคือสาเหตุของการผอมแต่มีพุง นอกจากนี้พวกพฤติกรรมอดอาหาร ข้ามมื้ออาหาร หรือกินแต่คลีก็ทำให้เสี่ยงต่อภาวะผอมแต่มีพุงเช่นกัน ทางที่ดีลดๆอาหารพวกนี้บ้างดีกว่านะ
พยายามเลิกพฤติกรรมทั้ง 4 ข้อนี้เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีและไม่มีพุงกันดีกว่านะ 🙂