สำหรับคู่รักทียังไม่ต้องการมีบุตร หรือต้องการคุมกำเนิดแต่มีปัญหาด้านอื่นๆ กับการคุมกำเนิดอย่างการทานยา ฉีดยาหรือว่าแม้แต่การใส่ถุงยางอนามัย อาจเลือกวิธีที่เรียกว่า
“หน้า 7 หลัง 7”
แม้จะดูเป็นเรื่องโบราณล้าสมัย แต่ก็ยังคงเป็นความเชื่อที่ผ่านการคิดทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว หน้า 7 หลัง 7 หรือการนับระยะปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดตามธรรมชาติ แต่จะเห็นผลกับผู้หญิงที่มีรอบเดือนปกติ 26 – 32 วัน และรอบเดือนมาอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน โดยระยะปลอดภัยที่ว่านี้ก็คือช่วงเวลา 7 วันก่อนที่รอบเดือนจะมา และ 7 วันหลังจากวันแรกที่รอบเดือนมานั่นเอง – หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ? โดย คลีนิกวัยใส โรงพยาบาลกาฬสินธุิ์ ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, Kapook.com
แต่อาจยังไม่ค่อยมีใครได้พูดถึงเรื่องของ “ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด” ในบทความนี้แม่นุ่มจึงขอนำเสนอเรื่องราวของวิธีที่จะทำให้หน้า 7 หลัง 7 มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากขึ้น ซึ่งมีดังนี้ค่ะ
- นับให้ถูกต้อง การนับ “หน้า 7 หลัง 7” ต้องนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา หากนับตอนประจำเดือนหมด มีโอกาสพลาดตั้งครรภ์
- ประจำเดือนมาตรง คนที่ประจำเดือนมาไม่ตรงอาจนับหลัง 7 ได้เมื่อประจำเดือนมา แต่จะนับหน้า 7 ไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าประจำเดือนครั้งต่อไปจะมาวันที่เท่าไหร่
- ประจำเดือนควรมาเดือนละ 1 ครัง หากประจำเดือนมามากกว่า 1 ครั้งต่อเดือนจะใช้วิธีนี้ไม่ได้ เพราะอาจเป็นประจำเดือนช่วงไข่ตก ทำให้พลาดตั้งครรภ์
- ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย หากประจำเดือนมากระปริบกระปรอย ไม่ควรวางใจการนับ เพราะมีปัจจัยมากมายที่ทำให้ผู้หญิงมีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดแล้วคิดว่าเป็นเลือดประจำเดือน เช่น เครียด ฮอร์โมนผิดปกติ ปากมดลูกอักเสบ เนื้องอกปากมดลูก เนื้องอกมดลูก ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกรังไข่ เสริมฮอร์โมนหรือกินสมุนไพรที่มีฮอร์โมนเพศหญิง
- เคร่งครัดในกฎเกณฑ์ เช่น หน้า 7 หลัง 7 ก็ต้องยึดเลข 7 ไม่ใช่ 8 วัน 9 วัน 10 วันก็ได้
อย่างไรก็ดี แม่นุ่มต้องเตือนว่าให้ปฏิบัติให้เคร่งครัดด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่พร้อมนั่นเองค่ะ
