คุณแม่บางคนเกิดปัญหาหลังคลอดแล้วมีกลิ่นตัวแรงกว่าปกติ จนเกิดความกังวล ไม่มีความสุข ปัญหานี้มีสาเหตุและมีทางแก้ไขค่ะ คุณแม่อย่าเพิ่งร้อนใจไปนะคะ
สาเหตุ
- เมื่อตั้งครรภ์ร่างกายและฮอร์โมน จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้มีกลิ่นตัวแรงขึ้น
- ระหว่างตั้งครรภ์ระบบเมตาบอลิซึมหรือระบบการเผาผลาญในร่างกายจะทำงานมากกว่าปกติ 2-3 เท่า จึงทำให้กลิ่นแรงกว่าคนทั่วไป
- ระบบการขับถ่ายของเสียในร่างกายทำงานไม่ปกติ เช่น ร่างกายขับน้ำคาวปลาออกไม่หมด ท้องผูก กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระจนทำให้กลิ่นของเสียต่างๆ หมักหมมอยู่ในร่างกาย
วิธีแก้
- แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสะอาด สวมสบาย โดยเฉพาะชุดชั้นใน ต้องไม่รัดหรือคับจนเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายอับชื้นเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์
- หากอากาศร้อน รู้สึกเหนียวตัว การอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ ก็จะช่วยขจัดคราบไคลและกลิ่นตัวไปได้ ทำให้ร่างกายสะอาดสดชื่นอยู่เสมอค่ะ
- หลังปัสสาวะอุจจาระแล้ว ควรล้างทำความสะอาดอวัยวะต่างๆ ให้เรียบร้อย และเช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้นและเชื้อราในช่องคลอด
- ระวังไม่ให้ท้องผูก ด้วยการรับประทานผักผลไม้เป็นประจำสม่ำเสมอ รวมถึงอาหารที่มีกากใยสูง และฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา
- เมื่อมีประจำเดือนควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาด เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
- อาจใช้สารส้ม สบู่สมุนไพร หรือน้ำหอมสกัดจากธรรมชาติ เพื่อช่วยลดกลิ่นและหลีกเลี่ยงการแพ้สารเคมี
เพียงเท่านี้คุณแม่ก็สบายใจหายห่วงเรื่องกลิ่นได้แล้ว อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่เมื่อร่างกายมีการปรับฮอร์โมน ระบบเผาผลาญทำงานน้อยกว่าตอนตั้งครรภ์ บวกกับการดูแลตัวเองตามคำแนะนำ กลิ่นตัวอันพึงประสงค์ก็จะค่อยๆ จางลงเองค่ะ