ทำยังไงดี?? ท้องแต่ต้องขับรถ

0

ตามหลักการแล้วคุณแม่คั้งครรภ์  โดยเฉพาะเมื่ออายุครรภ์มากขึ้นจนถึงระยะใกล้คลอด  ไม่ควรที่จะขับขี่ยานพาหนะใดๆ  แต่ในความเป็นจริงแล้ว  คุณแม่ท้องในปัจจุบันบางคนก็ไม่สามารถเลือกได้  เพราะความจำเป็นต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นด้วยภาระหน้าที่การงาน  ลักษณะขอลครอบครัวเดี่ยวที่อาจไม่มีใครคอยช่วยเหลือ ฯลฯ  ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อยู่ในสภาวะดังกล่าวก็ควรที่จะศึกษาและเตรียมพร้อมที่จะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างปลอดภัยกันเถอะค่ะ สร้างความปลอดภัยในการขับขี่

ทำยังไงดี ท้องแต่ต้องขับรถ

ปรับเปลี่ยนท่านั่ง

ควรปรับระยะถอยห่างจากพวงมาลัยจากเดิมราวๆ 10 เซนติเมตร  และปรับเบาะเอนหลังเล็กน้อย รวมถึงปรับพวงมาลัยให้สูงขึ้น  เพื่อป้องกันกระแทกในกรณีที่เกิดการเบรกหรือเฉี่ยวชนอย่างกระทันหัน

คาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธี

แม้คุณแม่จะพุงใหญ่หรืออึกอัดแค่ไหน  ก็ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยไว้เสมอนะคะ  โดยสายบนให้อยู่ระหว่างราวนม  และสายล่างอยู่ใต้พุงกลมๆ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุนั่นเองค่ะ

หาอุปกรณ์เสริมบรรเทาปวด

การนั่งขับรถเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะชั่วโมงที่รถติดสาหัส  ย่อมทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกปวดเมื่อยเอวและหลังได้  ดังนั้นก็ควรหาตัวช่วย เช่น เบาะรองก้น  รองหลัง  หรือแผ่นปูเบาะที่เป็นลูกไม้กลมหรือลูกปัดที่ใช้นวดคลึงบรรเทาอากรปวดเมื่อยไดเวลาที่เราขยับตัวไปมาก็ช่วยได้เยอะนะคะ

งดใช้ความเร็ว

ระลึกอยู่เสมอว่าคุณไม่ได้ตัวคนเดียว  การใช้ความเร็วบนท้องถนนยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อตัวคุณเองและลูกน้อยในท้องด้วย  ยิ่งขับรถเร็วเท่าไหร่  ก็ยิ่งเพิ่มความตื่นหนก  ความเครียด  ความเกร็งของกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกาย  ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างอันตรายให้คุณแม่ได้ทั้งนั้นค่ะ  ทางที่ดีอย่าซิ่งดีกว่า

พึงระลึกถังความเสี่ยง

แม้ว่าคุณคุณแม่จะยังสามารถขับรถเองได้ไปจนถึงช่วงใกล้คลอด  แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปลอดภัย  และไม่มีความเสี่ยงใดๆ นะคะ  ทางที่ดี  เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง  ควรขับรถหรือเดินทางเฉพาะเท่าที่จำเป็นก็พอค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *