สิ่งสำคัญในการที่จะมีสุขภาพขณะตั้งครรภ์ที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ หลีกเลี่ยงสารที่เป็นอันตราย รวมถึงการควบคุมน้ำหนักให้เพิ่มอย่างเหมาะสม ในส่วนของอาหารการกินนั้น หนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ท้อง คือ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งต้องกินให้ถูกวิธี
หากวัดค่าพลังงานแล้ว คาร์โบไฮเดรตให้พลังงานเท่ากับโปรตีน คือ ประมาณ 4 กิโลแคลอรี่ ต่อ มวล 1 กรัม แต่ร่างกายสามารถย่อยสลายและนำพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตไปใช้ได้ง่ายและเร็วกว่ามาก โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตกลุ่มที่เป็นน้ำตาลหรือที่เรียกว่า คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว
คุณแม่ในช่วงแพ้ท้องซึ่งรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อย ต้องรับประทานคาร์โบไฮเดรตประเภทที่เป็นน้ำตาลดูดซึมเร็วเข้าไป จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งยังป้องกันอาการเป็นลมหน้ามืดจากอาการน้ำตาลในเลือดต่ำได้อีกด้วย แต่ต้องระมัดระวังอย่ารับประทานมากเกินไปเพราะอาจสะสมอยู่ในกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะเบาหวาน หรือกลายเป็นไขมันได้
“คาร์โบไฮเดรต”
ถือเป็นพลังงานหลักที่ร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการมากที่สุด ร้อยละ 45-55 ของความต้องการพลังงานทั้งหมดในหนึ่งวัน แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของคาร์โบไฮเดรตควรมาจากธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนั้น ธัญพืชจะทำให้อิ่มนานไม่หิวง่าย ช่วยลดการกินจุบจิบได้
คุณแม่ท้องควรเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมนำไปใช้งาน จึงอยู่ท้องนานกว่า และให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยในเรื่องการขับถ่าย ได้แก่ ข้าวกล้อง, ธัญพืช, ขนมปังโฮลวีต, ถั่ว และผลไม้ต่างๆ ที่มีกากใย โดยไม่ควรรับประทานธัญพืช ถั่ว หรือผลไม้ชนิดเดียวซ้ำๆ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลาย สำหรับแม่ท้องที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งขัดสีทุกชนิด เพราะเมื่อกิจแล้วจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้เร็ว
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับพลังงานประมาณ 2,000-2,300 กิโลแคลอรี่ หรือมากกว่าคนปกติราว 300 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่ทำให้เกิดโรคอ้วนในคุณแม่ตั้งครรภ์ค่ะ
