หลายๆ บ้านประสบปัญหาเมื่อคุณแม่มีน้องน้อยเป็นสมาชิกใหม่ พี่คนโตที่อยู่ในช่วงวัยซน โดยเฉพาะวัยอนุบาลอาจจะยังแยกแยะไม่ออก จึงเกิดอาการ ‘อิจฉา’ น้อง กลัวน้องจะมาแย่งความรัก ลูกช่วงวัยนี้จึงเกิดอาการแปลกๆ ดื้อผิดปกติ เรียกร้องความสนใจเกินกว่าเหตุ หนักไปกว่านั้นถึงขั้นทุบท้องคุณแม่ หรือเกลียดน้อง รังแกน้อง
ปัญหาเหล่านี้จะไม่บานปลายลุกลาม หากคุณแม่รู้จักวางแผนพูดคุย ทำความเข้าใจ ปรับความรู้สึก ปลูกฝังความคิดเชิงบวกให้กับเขาตั้งแต่ต้น
มาเริ่มกันเลยไหมคะ
- เกริ่นเรื่องน้องให้ฟังบ่อยๆ เมื่อวางแผนจะมีน้อง
ในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่มีการวางแผนดี ก่อนตัดสินใจมีลูกคนที่สองซักพักควรเริ่มต้นพูดคุยกับลูกคนโตให้เขาเริ่มรับรู้ข้อมูลก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น ดูน้องเบบี๋คนนั้นสิจ๊ะน่ารักจังเลย ลูกอยากมีน้องผู้หญิงหรือผู้ชายดีจ้ะ (ข้ามคำถามชี้ชะตาแบบ ลูกอยากมีน้องไหมจ๊ะไปเลยเนียนๆ 55) ถ้ามีน้องแล้วหนูจะได้มีเพื่อนเล่นต้องสนุกแน่ๆ เลย เป็นต้น
- ปลูกฝังความรู้สึกเป็นเจ้าของ
คุณพ่อคุณแม่ต้องมีจิตวิทยาพูดคุยในแบบที่ทำให้เขารู้สึกว่า เขาเป็นเจ้าของ เป็นผู้ดูแลคุ้มครองน้อง เช่น ถ้าจะมีคนขอหอมแก้มน้องต้องขออนุญาตพี่…. ก่อนน้า ลูกจะได้มีความรู้หวงแหน มองว่าน้องเป็นสมบัติล้ำค่าของตัวเอง ไม่ใช่คนที่จะมาแย่งความรัก
- เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมทุกเรื่อง
คุณควรให้เขามีส่วนร่วมกับทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับน้อง เช่น ช่วยเลือกเสื้อผ้าอุปกรณ์สำหรับน้อง ช่วยหยิบของใช้ต่างๆ ให้คุณแม่ตอนเลี้ยงน้อง หรือจัดหน้าที่ประจำให้ดูแลน้อง ให้เขาภูมิใจว่าได้รับผิดชอบหน้าที่ยิ่งใหญ่ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับน้องต้องเขาเท่านั้น!!
- ชื่นชมและให้ความสำคัญ
คุณควรหมั่นชื่นชมและให้กำลังใจเมื่อลูกช่วยเหลือและทำความดี เพื่อให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำเป็นที่น่าชื่นชม นอกจากนี้คุณยังควรพูดชมลูกต่อหน้าเขาให้คนอื่นฟัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูก เช่น นี่ถ้าไม่มีพี่…. นะ คุณแม่เหนื่อยแย่เลย พี่…. ช่วยดูแลน้องได้เยอะเลยนะ เก่งมากๆ หรือถ้าน้องไม่ได้คุยกับพี่…. ก่อนนอนนะไม่ยอมเลย พอพี่… คุยด้วยก็เงียบไม่งอแงเลย เป็นต้น คราวนี้คุณพี่จะดูแลน้องสุดพลังแน่ๆ ค่ะ
- รักและให้ความอบอุ่นกับลูกเหมือนเดิม
เหนือสิ่งอื่นใดแม้ว่าคุณแม่จะเหนื่อยจะเครียดแค่ไหน ต้องมีเวลาพูดคุย ดูแลพี่คนโตให้เหมือนเดิม ให้ลูกรู้สึกว่าเขายังได้รับความรักเหมือนเดิม สิ่งที่ควรระมัดระวังอย่างมากคือการระบายอารมณ์โกรธและหงุดหงิดใส่ลูกเกินจำเป็น ลูกอาจจะไม่โกรธคุณแต่จะหาเหตุอื่นมาอธิบายปฏิกิริยาของแม่ที่เปลี่ยนไป ซึ่งก็จะมองว่าเพราะมีน้องแม่จึงเหนื่อยและหงุดหงิดใส่ หากลูกเกเรงอแงเรียกร้องความสนใจจากคุณบ้างในช่วงนี้ก็ขอให้พยายามทำความเข้าใจ พูดคุยกับเขาดีๆ ไม่ลงโทษเกินกว่าเหตุหรือตามใจจนเกินพอดีนะคะ