5 เทคนิคแต่งห้องนอนเสริมจินตนาการลูกวัยซน

0

เมื่อลูกน้อยเริ่มเติบโตเข้าสู่วัยเข้าเรียน  สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องของการขยับขยาย  จัดพื้นที่ส่วนตัวให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบดูแลช่วยเหลือตัวเอง  การจัดห้องนอนลูกก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดได้นะคะ  เทคนิคพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงในการจัดห้องนอนของลูกมีอะไรบ้าง  มาดูกันเลย…

 

ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง

bed (1)

สิ่งที่สำคัญที่สุดของการตกแต่งห้องนอนเด็ก อายุ 5-12 ปี ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึง คือ การเลือกวัสดุที่ปลอดภัย ทั้งวัสดุที่ใช้ในการผลิตและรูปแบบ เช่น  สีทาห้อง หรือ  วัสดุที่ใช้ในการประกอบเฟอร์นิเจอร์ต้องไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปน  เพราะลูกต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันในการนอนหลับพักผ่อนในห้องนอน  หากสูดดมสารเคมีที่ปนเปื้อนเข้าไปทุกวันๆ ย่อมเกิดอันตรายต่อสุขภาพ  ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องมีรูแปแบบที่เหมาะสม  เช่น  ไม่มีเหลี่ยมมุมหรือวัสดุที่แตกหักง่าย อย่างแก้วหรือกระจก  เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

เลือกสิ่งของที่ใช้งานง่าย

bed (2)

เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านสำหรับตกแต่งห้องนอนลูก   ควรมีฟังก์ชั่นใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย  ภาพติดผนัง นาฬิกาตกแต่งบ้าน  ตุ๊กตา  โคมไฟอ่านหนังสือ  ฯลฯ  และควรจัดวางในที่ที่เหมาะสมให้ลูกสามารถใช้งานด้วยตัวเองได้  เป็นการสนับสนุนให้ลูกได้ทำอะไรด้วยตัวเอง  เกิดความภาคภูมิใจด้วยค่ะ

 

เลือกของแต่งห้องให้เหมาะสมกับวัย

bed (3)

เด็กในวัยนี้เป็นวัยแห่งการสร้างสรรค์และจินตนการ  การแต่งห้องย่อมต้องแตกต่างจากผู้ใหญ่ เช่น  ติดสติกเกอร์หรือวอล์เปเปอร์  รูปสัตว์   เตียงนอนเป็นรูปรถยนต์  เป็นต้น

 

แต่งห้องตามความสนใจของลูก

bed (5)

เพื่อกระตุ้นให้เกิดการต่อยอดทางความคิด  และขณะเดียวกันก็ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่ในห้องตัวเอง  เช่น   หากลูกสนใจเกี่ยวระบบสุริยจักวาล  ก็อาจแต่งห้องเป็นแนวอวกาศ  เช่น ใช้โคมไฟรูปดาว  แขวนโมบายเกี่ยวกับระบบจักวาล  เป็นต้น

 

สีสันช่วยได้

bed (4)

โดยธรรมชาติเด็กมักจะชอบสีสันสดใส ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตา การ์ตูน ผ้าปู  ฯลฯ จะส่งผลโดยตรงทางอารมณ์ของเด็กอย่างมาก สำหรับสีสันควรเน้นเป็นสีที่ให้ความรู้สึกเย็น และในเชิงจิตวิทยาที่ดีจะช่วยให้เด็กอารมณ์เย็น ไม่งอแง

 

นอกจากปัจจัยเหล่านี้ที่ว่ามา  ห้องนอนของลูกควรเป็นห้องที่อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก และหมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่นอน ผ้าปู พรม ผ้าม่านซักทำความสะอาดบ่อยๆ รวมถึงฝุ่นผงต่างๆ เพื่อไม่ให้สะสมเชื้อโรค และห่างไกลจากโรคภูมิแพ้อื่นๆ  ก็จะทำให้ลูกมีสุขภาพกายและสุขภาพสมองที่ดีค่ะ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *