แม้คนไทยส่วนใหญ่จะดี๊ด๊ากับการเข้าสู่ฤดูหนาว เนื่องจากเผชิญกับอากาศร้อนมาเกือบตลอด พอมีลมหนาวมาเยือนเลยแฮปปี้เป็นพิเศษ แต่งานนี้จะมัวดีใจจนปล่อยปละละเลยสุขภาพไม่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินนะคะ เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงนี้แหละ ทำให้สมาชิกในครอบครัวเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายเชียว
ขณะนี้ประเทศไทยหลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประชาชนเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย สิ่งสำคัญอันดับแรกในการดูแลสุขภาพที่เราสามารถทำได้ คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย
เคล็ดลับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีในช่วงฤดูหนาว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบหมวดหมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกอาหารที่หลากหลาย
- ดื่มน้ำอุ่นวันละไม่ต่ำกว่า 8 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยให้หายใจสะดวก ลดอาการปวดท้อง ท้องอืด รวมถึงลดอาการไข้หวัดได้ ทั้งนี้ ไม่ดื่มเหล้าแก้หนาว เพราะเสี่ยงหัวใจวาย และเสียชีวิตได้
- เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ด้วยเมนูที่ปรุงจากพืชสมุนไพรรสเผ็ดร้อน เช่น พริก ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด กะเพรา โหระพา แมงลัก ผักชี กระเทียม หอมแดง ฯลฯ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้อาการหนาวชาบริเวณปลายมือและปลายเท้าลดลง ส่วนหัวหอมและกระเทียมช่วยป้องกันและบรรเทาอาการหวัดได้
- ดื่มน้ำสมุนไพรรสร้อน คือ น้ำขิง โดยการนำขิงแก่มาต้มแล้วเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง หรือน้ำขิงในรูปแบบสำเร็จรูปชงดื่ม จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ นอกจากนี้น้ำขิงยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบในคอได้ด้วย
- รับประทานผัก ผลไม้ สมุนไพรรสเปรี้ยว รสเผ็ดร้อน และรสขมเล็กน้อย เช่น มะนาว ใบชะมวง ยอดผักติ้ว สับปะรด มะขามป้อม มะแว้งต้น มะแว้งเครือ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ หรือนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น ไก่ผัดขิง ผัดกะเพรา ต้มยำปลา แกงไตปลา แกงส้มดอกแค แกงข่าไก่
- รับประทานอาหารปรุงสุกที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงการรับประทานประเภทพล่า ยำต่าง ๆ ปลาดิบ หรืออาหารที่ปรุงไม่สุก เพราะจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว ควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญคือ การรักษาความอบอุ่นร่างกาย สวมเสื้อกันหนาว สวมถุงมือ สวมถุงเท้า ห่มผ้าหนา ๆ ไปจนถึงใช้กระเป๋าน้ำร้อนค่ะ