สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่การดูแลทารกแรกเกิดถือเป็นเรื่องหนักหนาสากรรจ์ไม่ใช่น้อย ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความเครียดได้โดยไม่รู้ แต่ไม่ใช่เฉพาะคุณพ่อคุณแม่นะคะที่เครียด เบบี๋ก็สามารถเกิดความเครียดได้เช่นเดียวกัน หากคุณพ่อคุณแม่ตอบสนองความต้องการของเขาไม่ได้ หลายคนคงเกิดคำถามว่า ก็จะไปเข้าใจได้ยังไง พูดก็ไม่ได้ หิวก็ร้องไห้ ง่วงก็ร้องไห้ ร้อนไปก็ร้อง หนาวไปก็ร้อง ฯลฯ ก็เพราะยังพูดไม่ได้ทารก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนูส่งเสียงไม่ได้นะคะ และเสียงต่างๆ แม้แต่เสียงร้องนี่ล่ะค่ะคือวิธีการสื่อสารภาษาของลูก
ในทางวิชาการเสียงร้องของเด็กสามารถสื่อภาษาที่มีความหมายได้ 5 เสียงหลักที่ ได้แก่
“Neh” (เน่ะ) = หนูหิว เสียง Neh
จะเกิดจากปฏิกิริยาการตอบโต้เมื่อร่างกายพยายามจะดูดนม เพราะเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เวลาทารกหิว เขาจะพยายามหานม สังเกตได้จากรูปปากของลูกที่อ้าครึ่งไม่อ้าครึ่ง และลิ้นที่พยายามจะดุนเพดานปาก เวลาที่ลูกร้องเสียงนี้เป็นเสียงที่พ่อแม่มักจะจับความหมายได้ง่ายที่สุด บางทีจะสังเกตได้ว่า ลูกจะส่ายหน้าไปมาเพื่อหานมแม่ด้วย
“Owh” (อ้าว) = หนูง่วงแล้ว
เสียง Owh เกิดขึ้นเมื่อร่างกายแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ หรือรีเฟลกซ์ (Reflex) กับการหาว บวกกับการเปล่งเสียงร้องของลูกน้อย แสดงให้เห็นว่าลูกน้อยต้องการนอนพักผ่อน
“Eh” (เอ) = ช่วยให้หนูเรอด้วย
“Eairh” (เอ อ้า) = หนูปวดท้อง
“Heh” (เฮ่) = หนูไม่สบายตัว
ปัจจุบันมีศูนย์การเรียนภาษาเด็กทารกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ฟังและเข้าใจในเสียงร้องของลูกเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเลี้ยงลูกดูอย่างมาก ช่วยทำให้เข้าใจลูกได้ ลูกไม่ต้องร้องไห้นานๆ จนเกิดความเครียด ช่วยถนอมรักษาเซลล์สมองของเจ้าตัวน้อย เพราะเด็กทารกที่ร้องไห้เป็นเวลานาน อาจจะทำให้มีพัฒนาการทางร่างกายที่ช้ากว่าคนอื่น อีกทั้งอารมณ์ก็ดูไม่แจ่มใจ เติบโตมากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ ไม่ชอบเข้าสังคม ทำให้มีปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ค่ะ