“อีคิว” มาจากคำว่า Emotional Quotient (E.Q) หมายถึง ความฉลาดทางอารมณ์
ซึ่งก็คือความสามารถทางอารมณ์ ที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีความสุข การเลี้ยงดูช่วง 6 ปีแรกเป็น สิ่งสำคัญซึ่งพ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกมีอีคิวผ่านการเลี้ยงดูและสร้างกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กแต่ละวัยค่ะ ข้อมูลจากหนังสือ เลี้ยงลูกอย่างไรให้ EQ ดี โดย สสส. ระบุว่า เด็กจะมีความฉลาดทางอารมณ์ที่ดีได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเลี้ยงดู ดังนี้
“ให้ได้รับนมแม่ครบอย่างน้อย 6 เดือน”
หลังจากนั้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยต่ออีก 6 เดือน และสามารถเลี้ยงด้วยนมแม่ต่อไปถึง 2 ปีหรือมากกว่านั้นได้ เพราะนมแม่ส่งเสริมการพัฒนาด้านสมอง ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาด้านอารมณ์ จิตใจ และปัญหาสุขภาพจิตของเด็กในระยะยาวด้วย
“ให้ได้รับสัมผัสทั้ง 5”
ได้แก่ สัมผัสทางกาย (การอุ้ม กอด), สัมผัสทางเสียง (การพูดคุยกับเด็ก ร้องเพลง หรือเปิดเพลงคลอเบาๆ), สัมผัสทางรส (รสชาติของน้ำนมแม่), สัมผัสทางกลิ่น (เด็กที่ได้รับนมแม่จะคุ้นเคยกับกลิ่นน้ำนมและกลิ่นกายของแม่), สัมผัสทางสายตา (อุ้มเด็กไว้ใกล้ๆ บริเวณใบหน้า พูดคุยและจ้องมองเด็ก ขยับใบหน้าไปมาให้เด็กมองตาม หรือให้ เด็กจ้องมองของเล่นสีสดใส)
“อ่านหนังสือให้ฟัง”
การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง และให้เขาได้ดูภาพในหนังสือตั้งแต่ยังเป็นทารก จะช่วยทำให้เด็กเรียนรู้ความรู้สึกผ่อนคลายเพลิดเพลิน รวมทั้งยังเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน เด็กจะชอบฟังนิทานเรื่องเดิมซ้ำหลายครั้งจนจำได้และสามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ด้วย
“ดนตรีสร้างความสงบ”
เมื่อเด็กฟังเพลงที่มีทำนองและจังหวะช้าๆ เบาๆ จะรู้สึกสงบ มีสมาธิ และจิตใจผ่อนคลาย ส่วนเพลงที่มีทำนอง และจังหวะเร็วจะทำให้เด็กรู้สึกสดชื่นแจ่มใสและมีจิตใจที่ร่าเริงเบิกบาน
“ให้ได้เล่น”
การเล่นจะทำให้เด็กรู้จักการยอมรับกฎระเบียบ และถือปฏิบัติตาม พร้อมเห็นคุณค่าของการเคารพกฎกติกาการเล่น เกิดทักษะการเรียนรู้อยู่ร่วมกันกับผู้อื่น รู้จักควบคุมอารมณ์ การแบ่งปัน และการแก้ปัญหา นอกเหนือจากการช่วยพัฒนาด้านสติปัญญาและร่างกาย
“ให้เป็นฝ่ายเลือก”
อย่าพยายามยัดเยียดสิ่งที่เด็กไม่ต้องการหรือไม่ชอบ
ทั้งนี้ พ่อแม่ควรให้ลูกน้อยได้ลองเลือกสิ่งที่ต้องการหรืออยากทำ แล้วพ่อแม่คอยช่วยพัฒนาจุดด้อยของลูกให้ดีขึ้น โดยอาจให้เด็กลองเลือกง่ายๆ เช่น เสื้อผ้า หรืออาหารที่เขาต้องการค่ะ