ปัจจุบันสภาพสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป ผู้หญิงทำงานประจำและมีบทบาทในสังคมมากขึ้น ภาวะที่ต้องทำงานเร่งรีบแข่งกับเวลาอาจทำให้ผู้หญิงบางคนมองข้ามและใส่ใจสุขอนามัยของร่างกายน้อยลง โดยอวัยวะสำคัญที่คุณผู้หญิงต้องดูแลเป็นพิเศษคือ “จุดซ่อนเร้น” หรือ “ช่องคลอด” นั่นเองค่ะ
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า
หากดูแลความสะอาด “ช่องคลอด” ผิดวิธีและปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดโรคตามมา เช่น ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สวมถุงยางอนามัย หรือการสวนล้างช่องคลอดมากไป
นอกจากนี้เชื้อราในช่องคลอดก็เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เนื่องจากความสกปรกและอับชื้น ไม่ซักกางเกงในหรือสวมใส่ทั้งๆ ที่แห้งไม่สนิท และโรคมะเร็งช่องคลอด เกิดจากเซลล์มะเร็งเติบโตจากเนื้อเยื่อในช่องคลอด หรือลุกลามมาจากมะเร็งปากมดลูก หรือจากส่วนอื่นๆ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจเสียชีวิตได้ โดยมีอาการที่สังเกตได้เบื้องต้น คือ เลือดออกจากช่องคลอดมากหรือมีของเหลวผิดปกติไหลออกมา
ทริคสร้างสมดุลให้ “จุดซ่อนเร้น” ห่างไกลโรค
- การทำความสะอาดช่องคลอด ใช้น้ำสะอาดธรรมดาก็เพียงพอ เพราะภายในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งจะทำให้ช่องคลอดมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา การใช้น้ำยาล้างช่องคลอดบางชนิดเป็นประจำอาจไปทำลายเชื้อจุลินทรีย์ทำให้ความเป็นกรดด่างเสียไป ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย
- ในบางครั้งอาจใช้สบู่ที่มีค่า PH 5.5 ทำความสะอาดแล้วซับให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัวที่สะอาดและอ่อนนุ่ม ไม่ควรเช็ดถูแรงๆ เนื่องจากผิวหนังบริเวณนี้ละเอียดอ่อนมาก
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เพราะอาจมีสารพาราแบนปนเปื้อน
- ควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ซึ่งการดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะเป็นผลดีต่อระบบสืบพันธุ์ ช่วยลดภาวะช่องคลอดแห้งซึ่งเสี่ยงการติดเชื้อได้ง่าย
- หมั่นสังเกตความผิดปกติต่างๆ บริเวณอวัยวะเพศ เช่น คันในช่องคลอด ตกขาวมากจนผิดสังเกต อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็นมาก ตกขาวมีสีผิดไปจากเดิม หรือเวลาปัสสาวะรู้สึกเจ็บเหมือนปัสสาวะไม่สุด ควรรีบพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
ที่สำคัญ ไม่ควรซื้อยามาทาหรือรับประทานเองเพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ นอกจากนี้ควรหมั่นตรวจสุขภาพภายในเป็นประจำทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งนะคะ
