คาเฟอีนมีผลต่อการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง การกินคาเฟอีนมากเกินไปอาจทำให้ปวดหัวได้เช่นเดียวกับภาวะถอนคาเฟอีน หรือที่เรียกว่า “cold turkey” สำหรับคนที่เป็นไมเกรนบ่อยครั้งมีความเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้ปวดศีรษะเนื่องจากคาเฟอีนมากขึ้น
กาแฟทำให้เราปวดหัวได้อย่างไร?
คาเฟอีนสามารถทำให้เพื่อนๆ ปัสสาวะมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจทำให้ขาดน้ำด้วยเหมือนกัน ในทางกลับกันการขาดน้ำสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวด้วย เรียกว่าเป็นอาการที่กระทบต่อกัน
อาการปวดหัวอาจเกิดจากการกินคาเฟอีนเกินขนาด จากรายงานของ Mayo Clinic พบว่า การกินคาเฟอีนเกินขนาดอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวรวมถึงผลข้างเคียงอื่น ๆ โดยปกติคาเฟอีนสูงสุดที่สามารถกินได้ ไม่ควรเกินวันละ 400 มิลลิกรัม แต่ก็พบว่าในบางคนอาจทนต่อคาเฟอีนได้น้อยกว่าเท่านั้น นี่เทียบเท่ากาแฟชงประมาณ 4 แก้วต่อวัน สิ่งนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบุคคลด้วย
อย่างไรก็ดี กาแฟไม่ใช่สิ่งเดียวที่มีคาเฟอีน คาเฟอีนสามารถพบได้ในอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น
- ช็อคโกแลต
- ชาบางอย่าง
- เครื่องดื่มชูกำลัง
- น้ำอัดลม
จะรู้ได้ยังไงว่า เราปวดหัว เพราะกาแฟ?
อาการปวดหัวเพราะคาเฟอีนไม่ได้แตกต่างจากอาการปวดหัวทั่วไปนัก แต่ให้สังเกตว่า อาการจะปรากฏขึ้นหลังจากที่เรากินคาเฟอีน หากเพื่อนๆ สงสัยว่าคาเฟอีนเป็นสาเหตุของอาการปวดหัว ให้ลดคาเฟอีนและดูว่ามันส่งผลต่ออาการของเราอย่างไร แต่สำหรับคนที่ติดคาเฟอีน ต้องค่อยๆ ลดปริมาณลงจะดีกว่า เพราะจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “ภาวะถอนคาเฟอีน” อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine withdrawal) ติดกาแฟ เลิกยังไงดี?
อาการปวดหัวที่อาจมาพร้อมกับภาวะถอนคาเฟอีน เช่น
- เมื่อยล้า
- หงุดหงิด
- ไม่กระตือรือร้น ขาดพลังงาน
- ไม่ค่อยโฟกัส ไม่มีสมาธิ
- การนอนไม่หลับ
แก้อาการปวดหัวจากคาเฟอีนอย่างไร?
- ดื่มน้ำเยอะๆ
- นอนหลับเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดหัว
- อาจใช้ยาแก้ปวดช่วย
- ใช้ประคบเย็น น้ำแข็งสามารถลดอาการปวดได้