ระวัง! อันตรายจากยาชุด กินมากถึงขั้นไตพัง

0

“ยา” ถือเป็นความหวังของผู้ป่วย เพราะคิดว่าเมื่อรับประทานยา ย่อมทำให้อาการป่วยบรรเทาลงจนถึงขั้นหายเป็นปกติได้ แต่หลายครั้งที่การใช้ยาผิดประเภทและผิดวิธีนำไปสู่อันตราย สำหรับผู้ป่วยโลกไตก็เช่นกัน หลายคนไม่ทราบว่าการใช้ยาในกลุ่มเอ็นเสดเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อไตและทำให้เกิดอาการไตวายเรื้อรัง

ศ.นพ.ชัยรัตน์ ฉายากุล อายุรแพทย์โรคไต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และประธานอนุกรรมการโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาสมเหตุผล ให้ข้อมูลว่า…

จากการสำรวจสถิติผู้ป่วยโดยสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย พบว่าประชากรไทย 17% หรือประมาณ 8 ล้านราย กำลังป่วยด้วยโรคไตเรื้อรัง ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และสูงเป็นลำดับ 3 ของประเทศในอาเซียน และที่น่าเป็นห่วงคือในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายประมาณ 2 แสนคน และมีอัตราการเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 8,000 ราย

beware-dangers-of-prescription-drugs-eat-up-to-kidney-failure

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อรัง ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากเบาหวานและความดันเลือดสูง แต่อีก 5-10% เกิดจากการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม

  • กลุ่มยาแก้ปวดในกลุ่มเอ็นเสด (NSAID)
  • ยาปฏิชีวนะที่ใช้โดยไม่จำเป็น
  • ยาบำรุงหรือยาเสริมที่ใช้กันทั่วไป

โดยยาที่ทำให้เกิดโรคไต พบในผู้ป่วย 4 แบบ คือ

  1. ทานยาที่เป็นพิษต่อไตโดยตรง แบบนี้พบบ่อยที่สุด
  2. ยาที่มีผลให้เลือดไปเลี้ยงไตน้อยลง
  3. ยาที่ทำให้เกิดการตกตะกอนในท่อไตหรือท่อปัสสาวะ
  4. แพ้ยา นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับขนาด ปริมาณ และระยะเวลา หากทานต่อเนื่องเป็นเวลานานก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคไตวายเรื้อรัง

ถ้าดูแลการใช้ยาให้เหมาะสมได้ดีขึ้น ปัญหาโรคไตก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ มีผู้ป่วยโรคไตจำนวนไม่น้อยพยายามหาทางรักษาโรคไตการซื้อยากินเองโดยไม่ทราบว่ายาที่รับประทานมีฤทธิ์ทำลายไตทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้ว การรักษามีแค่ 3 วิธี คือ 1.ฟอกเลือด 2.ล้างไตทางช่องท้อง และ 3.ปลูกถ่ายอวัยวะ

ดังนั้น ข้อแนะนำสำหรับผู้ป่วยไตก็คือ ให้ไปพบแพทย์ ไปตรวจตรงเวลา ไม่ซื้อยากินเอง ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านี้ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *