กลายเป็นโรคมะเร็งซึ่งสร้างความตื่นตัวให้กับประชาชนโดยเฉพาะบรรดาสุภาพสตรีทั้งหลาย ภายหลังจากที่มีข่าวคราวของนางเอกสาวหน้าเด็ก “พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร” ที่ออกมาเปิดเผยว่าตนเป็นมะเร็งรังไข่ และได้ทำการคีโมไปถึง 5 ครั้ง โดยล่าสุดเพิ่งทำครั้งที่ 6 ไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา
“มะเร็งรังไข่”
เป็นมะเร็งที่พบได้มากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 40-60 ปี สาเหตุของโรคมะเร็งรังไข่อาจยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ก็พบปัจจัยเสี่ยง อาทิ สภาพแวดล้อม เช่น สารเคมี อาหาร, มักพบมะเร็งรังไข่ในสตรีที่ไม่มีบุตร หรือมีบุตรน้อย, ความผิดปกติทางพันธุกรรม
โดยเฉพาะเมื่อมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่, มีประจำเดือนเร็วคืออายุต่ำกว่า 12 ปี หรือหมดประจำเดือนช้าคือช้ากว่าอายุ 55 ปี เป็นโรคอ้วน นอกจากนี้ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งที่เต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งระบบทางเดินอาหาร มีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่มากกว่าคนปกติ
สัญญาณอันตรายที่บ่งว่าคุณอาจจะป่วยด้วยโรค “มะเร็งรังไข่” ได้แก่…
- ท้องอืดเป็นประจำ
- เรอบ่อยขึ้น
- ปัสสาวะบ่อย หรืออั้นปัสสาวะไม่อยู่
- รู้สึกปวดถ่วง ถ่ายอุจจาระไม่สะดวก นำไปสู่อาการท้องผูก
- คลำเจอก้อนเนื้อบริเวณท้องน้อย
- ปวดท้องน้อย
- มีประจำเดือนผิดปกติ
- มีน้ำในช่องท้องหรือท้องมาน
- เบื่ออาหาร ผอมแห้ง น้ำหนักลด
ในส่วนของการรักษานั้นการผ่าตัดเป็นวิธีแรกที่แพทย์จะเลือกทำการรักษา โดยแพทย์จะพยายามตัดเนื้อร้ายออกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วรักษาต่อด้วยเคมีบำบัด หรือรังสีรักษา
เนื่องจากมะเร็งรังไข่ในระยะแรกๆ มักจะไม่แสดงอาการ อีกทั้งยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง จึงป้องกันได้ยาก ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ รับการตรวจภายในหรือตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงโดยแพทย์ อย่างน้อยปีละครั้ง
นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงโดยการรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน รับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของอาหารนั้นอาจเพิ่มเติมด้วยการหม่ำอาหารที่มีประโยชน์ด้านต้านมะเร็งรังไข่ อาทิ แครอท มะเขือเทศ บร็อคโคลี่ ชาเขียว