ดื่ม “น้ำ” ไม่ดู เสี่ยงรับสารปนเปื้อนเป็นของแถม!

0

หลายครั้งทีเดียวที่ความเชื่อความศรัทธานำมาซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ ดังเช่นกรณีชาวบ้านพบบ่อน้ำสีชมพู ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา โดยน้ำในบ่อดังกล่าวเป็นสีชมพู ไม่มีกลิ่นเหม็น ด้วยลักษณะที่แตกต่างทำให้ชาวบ้านบางรายนำน้ำจากบ่อมาล้างหน้าหรือดื่มกินเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำมหัศจรรย์สามารถรักษาอาการป่วยได้

ล่าสุด นายแพทย์สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้เผยผลวิเคราะห์น้ำในบ่อดังกล่าวว่า… ลักษณะทางกายภาพของน้ำ เป็นน้ำขุ่นขาว มีสีชมพูอมม่วง ซึ่งสีดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คาดว่าน่าจะเกิดจากสีภายนอกที่เติมลงไปหรืออาจมีสารปนเปื้อนที่มีสีตกหล่นเข้าไปเจือปนในบ่อน้ำ จึงทำให้น้ำเป็นสีชมพูนอกจากนี้ยังตรวจพบเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน

บ่งชี้ถึงความสกปรกที่ปนเปื้อนมาจากสิ่งขับถ่ายของมนุษย์และสัตว์ แสดงว่าน้ำในบ่ออาจมีเชื้อโรคบางชนิดแพร่กระจายปะปนอยู่ในแหล่งน้ำได้ เช่น บิด ไทฟอยด์ และอหิวาตกโรค

สิ่งเจือปนหรือสิ่งปนเปื้อนในน้ำ

%e0%b8%94%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%a1-%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3-%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%a2

สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม…

1. เชื้อจุลินทรีย์

ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส และปรสิต มีอันตรายต่อสุขภาพมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับชนิด จำนวน ความรุนแรงของเชื้อโรค และความไวต่อเชื้อโรคของผู้ดื่มน้ำ โดยเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วง บิด และไทฟอยด์, เชื้อไวรัส ทำให้ป่วยเป็นโรคตับอักเสบชนิด เอ และ บี, พยาธิ ที่ติดต่อสู่คน ได้แก่ พยาธิตัวตืด พยาธิตัวกลมโดยพยาธิสามารถก่อโรคได้หลายชนิด เช่น ตับอ่อนอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ

2. โลหะหนัก

ที่พบบ่อย ได้แก่ แคดเมียม ตะกั่ว ปรอทและสารหนู โดยแคดเมียมจะมีผลต่อระบบไต ความดันโลหิต ปอด ถุงลมโป่งพองกระดูกเปราะ ส่วนตะกั่วเป็นอันตรายต่อสมอง ตับ กระดูก ตับอ่อน หัวใจ และระบบประสาท สำหรับปรอทนั้น หากไปสะสมที่อวัยวะใดก็จะทำให้อวัยวะนั้นพิการ สำหรับพิษของสารหนูจะมีผลต่อระบบหัวใจ โลหิต ปัสสาวะ ทางเดินอาหารและประสาท รวมถึงทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

3. สารเคมี

เช่น สารฆ่าหญ้า สารฆ่าแมลง กรดเกลือ คลอรีน สารทำความเย็น พลาสติก เหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและยาวอาทิ คลอรีนที่ทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์ในน้ำจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง สามารถทำลายตับ ไต นำไปสู่โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือกระเพาะปัสสาวะได้

อันตรายที่มากับน้ำน่ากลัวขนาดนี้ ไม่อยากเสี่ยงก็อย่าดื่มน้ำสุ่มสี่สุ่มห้านะคะ เพราะแทนที่จะหายจากโรค อาจป่วยหนักจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อแทน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *