หากคุณลองสังเกตตนเองว่าตอนนี้มีอาการใดบ้างที่เข้าข่ายน่าจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหากพบแล้วอย่าได้คิดปล่อยไว้เป็นอันขาด หากหากปล่อยนานไปจะยิ่งกลายเป็นโรคที่เรื้อรังรักษาได้ยากมากขึ้นจนบางครั้งบางโรคอาจรักษาไม่ได้อีกแล้วก็ได้เมื่อใดที่ความเครียดเกิดการสะสมมากขึ้นนั่นย่อมสามารถทำให้ร่างกายของคนเราเริ่มมีความแปรปรวนตามมามากมาย
เนื่องจากระบบเหล่านั้นจะต้องทำงานค่อนข้างหนักตลอดเวลา เมื่อเกิดความเครียดหัวใจก็จะเริ่มมีกรเต้นที่ผิดปกติ เริ่มเต้นเร็วขึ้น ส่วนของหลอดเลือดเองก็จะเริ่มมีการหดตัว ปอดและส่วนของหลอดลมก็เริ่มจะตีบจนทำให้การหายใจนั้นมีความลำบากตามมาได้ ส่วนของกระเพาะอาหารเองก็เช่นกันจะเริ่มมีการหลั่งกรดออกมามากยิ่งขึ้น ลำไส้จะบีบตัว สำหรับตัวอย่างอาการที่หากพบแล้วน่าจะมีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคเรื้อรังได้ ได้แก่
- ระดับความดันโลหิตสูงมาก
- มีแผลเกิดขึ้นภายในกระเพาะอาหาร
- อาการแพ้สิ่งต่างๆ
- อาการหอบหืดและปวดศีรษะ
- อาการปวดศีรษะแบบไมเกรน
- อาการปวดหลัง
และยังมีอีกมากมายค่ะ คราวนี้หลายคงก็คงเริ่มกังวลกันแล้วว่า… บางครั้งเราเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเครียดที่เกิดขึ้นได้ หรือปัญหาต่างๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้
แบบนี้แล้วแล้วการป้องกันทำได้อย่างไรบ้าง?
- พยายามตั้งสติให้ได้
การที่คนเรารู้ตัวอยู่ตลอดเป็นสิ่งที่ดี เมื่อใดก็ตามที่มีความเครียดเกิดขึ้นก็ควรที่จะรู้จักเตือนตนเองอยู่เสมอว่าอย่าได้เครียดไปเลย เตรียมรับมือจะดีกว่า เครียดไปก็ไม่ได้อะไร พยายามพาตัวเองออกจากจุดเครียดไปหาที่สบายใจก่อนจะดีกว่า
- ต้องรู้จักที่จะเผชิญหน้า
การได้เผชิญหน้านั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดยามเมื่อต้องเจอกับปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่โตเพียงใดก็ตามต้องสู้ ต้องกล้าที่จะเผชิญนั่นก็เพื่อเป็นการฝึกให้จิตใจนั้นมีความแข็งแกร่ง มีความพร้อมต่อการจะเริ่มสู้กับปัญหา เมื่อความเครียดมีลดน้อยลงเมื่อนั้นการจัดการกับปัญหาก็จะง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่าปล่อยให้ความเครียดมาทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะนั่นจะทำให้คุณมีสุขภาพที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ทางที่ดีมาดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากความเครียดกันดีกว่า